“วูเช่” ส่ง “Dr.Ple”

“วูเช่” ส่ง “Dr.Ple” ลุยตลาดเวชสำอางเอาใจคนรักสุขภาพผิว เน้นดูแลและปกป้องอย่างปลอดภัย ปั้นยอด 100 ล้านภายใน 3 ปี

“วูเช่” ส่ง “Dr.Ple” ลุยตลาดเวชสำอางเอาใจคนรักสุขภาพผิว

เน้นดูแลและปกป้องอย่างปลอดภัย ปั้นยอด 100 ล้านภายใน 3 ปี

 

“วูเช่” ผู้เชี่ยวชาญในการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของคนไทย ต่อยอดความสำเร็จจากประสบการณ์กว่า 10 ปี เดินหน้าสร้างแบรนด์ “Dr.Ple” เวชสำอางตัวเด็ดจากคลินิกความงามสู่ผู้บริโภคในวงกว้าง ตอบโจทย์คนใส่ใจสุขภาพผิว เน้นการบำรุงและปกป้องอย่างปลอดภัย ไร้สารสเตียรอยด์  จับเทรนด์ออนไลน์ขยายการเติบโต ตอกย้ำความเชื่อมั่นด้วยผลวิจัยและการรับรองมาตรฐานจากห้องแล็บ พร้อมอวดโฉมสินค้าต้นปี 2568  ตั้งเป้าหมาย 100 ล้านบาท ภายใน 3 ปี

 

ดร.นฤมล พุ่มฉัตร (ดร.เปิ้ล) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วูเช่ จำกัด เปิดเผยว่า จากประสบการณ์ในการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางมากว่า 10 ปี โดยได้การตอบรับที่ดีในกลุ่มผู้บริโภคโดยทั่วไป และกลุ่มคลินิกความงาม ด้วยคุณภาพที่เชื่อถือได้ ภายใต้โรงงานมาตรฐาน GMP ที่สามารถรองรับการผลิตในรูปแบบ OEM อย่างครบวงจร โดยมีแบรนด์ “Dermache” (เดอร์มาเช่) เป็นสินค้าเรือธงที่สร้างความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ล่าสุด บริษัทฯ ได้สานต่อความสำเร็จด้วยการคิดค้นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเวชสำอาง เพื่อตอบโจทย์ผู้มีผิวแพ้ง่าย อันเป็นปัญหาผิวที่สำคัญของคนในปัจจุบัน โดยเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด ภายใต้แบรนด์ “Dr.Ple” (ดร.เปิ้ล) ภายในต้นปี 2568

 

“ด้วยความพร้อมด้านการวิจัยและพัฒนา รวมทั้งการมีโรงงานผลิตที่ได้รับมาตรฐาน GMP ส่งผลให้บริษัทฯ มีลูกค้าในรูปแบบ OEM เข้ามาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งกลุ่มคลินิกความงามที่ต้องการผลิตภัณฑ์สำหรับการดูแลและป้องผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย  บริษัทฯ จึงได้วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เวชสำอางภายใต้แบรนด์ “Dr.Ple” ขึ้น เพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้าในกลุ่มดังกล่าว อาทิ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด ผลิตภัณฑ์สำหรับเครื่องมือแพทย์ในคลินิกความงาม โดยได้รับการตอบรับที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง จึงมีแนวคิดในการขยายความสำเร็จของแบรนด์ไปสู่ผู้บริโภคในวงกว้าง โดยจะเริ่มเปิดตลาดในช่องทางออนไลน์ภายในเดือนมกราคม 2568”

 

ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จของแบรนด์ “Dr.Ple”  คือ คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ผู้ใส่ใจในสุขภาพผิว รวมไปถึงผู้ที่ใช้บริการคลินิกความงาม โดยเป็นสินค้าที่มีความปลอดภัยสูง ผ่านการรับรองจาก อย. และมาตรฐานต่าง ๆ โดยในช่วงต้นปี 2568 จะทำการแนะนำสินค้าในกลุ่มสกินแคร์ออกสู่ตลาด อาทิ ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด และผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่ไม่มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์  อันเป็นสาเหตุที่ทำให้โครงสร้างผิวอ่อนแอ เนื่องจากการใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์เป็นเวลานาน จะส่งผลให้การสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังลดลง ทำให้ผิวหนังบางลง  จนทำให้เกิดริ้วรอย ความหมองคล้ำ และปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมา

 

ด้านการสื่อสารทางการตลาด ในช่วงเริ่มต้นจะมุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ “Dr.Ple” ให้เป็นที่รู้จัก ในฐานะของแบรนด์เวชสำอางที่จริงใจกับผู้บริโภค มุ่งมั่นในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลและปกป้องผิวของคนไทยให้มีสุขภาพดีจากโครงสร้างผิวที่แข็งแรง ทั้งนี้ ได้ร่วมมือกับ “ดร.แพท หทัยทัด” ผู้เชี่ยวชาญด้านความงาม มาร่วมสื่อสารการตลาดและให้ความรู้ในการดูแลผิวอย่างถูกต้อง โดยในปีแรก จะทำการจำหน่ายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เป็นหลัก ก่อนที่จะขยายช่องทางเข้าสู่โมเดิร์นเทรดต่อไป โดยตั้งเป้าหมายยอดขายประมาณ 100 ล้านบาท ภายใน 3 ปี

 

“เราต้องการสื่อสารให้ผู้บริโภคชาวไทยได้เข้าใจข้อมูลที่ถูกต้อง เชื่อถือได้ และต้องพิสูจน์ได้ เช่น ครีมกันแดด Dr.Ple ที่มีประสิทธิภาพป้องกันรังสียูวีเอ ยูวีบี (Visible Light) รวมทั้งแสงสีฟ้า (Blue Light) ที่มาจากแสงอาทิตย์ แสงจากหลอดไฟ ทีวี คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ ฯลฯ อันเป็นสาเหตุสำคัญในการทำลายผิว จนเกิดปัญหาฝ้า กระ และริ้วรอยต่าง ๆ โดยค่า SPF ที่ระบุบนผลิตภัณฑ์ของเรา สามารถพิสูจน์ได้ด้วยใบตรวจรับรองมาตรฐานทางแล็บ ช่วยเสริมความมั่นใจให้กับผู้บริโภค ท่ามกลางกระแสของเครื่องสำอางที่หลั่งไหลเข้ามาในตลาดเป็นจำนวนมาก”

 

ดร.นฤมล กล่าวว่า ปัจจุบันจะมีเครื่องสำอางแบรนด์ใหม่เปิดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งแบรนด์ไทยและต่างประเทศ ส่งผลต่อการแข่งขันที่สูงขึ้น  ท่ามกลางพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงเล็งเห็นโอกาสในการทำตลาดเครื่องสำอางคุณภาพระดับกลาง-บน ในราคาที่ทุกคนจับต้องได้ โดยพบว่าลูกค้ายังคงมองหาผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพอย่างแท้จริง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์สำหรับผิวแพ้ง่าย ซึ่งเป็นปัญหาผิวของคนในปัจจุบัน อันเนื่องมาจากไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล ฝุ่น ควัน และมลภาวะ  การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ส่งผลต่อการทำร้ายผิวโดยไม่รู้ตัว รวมทั้งกลุ่มที่ใช้บริการคลินิกความงาม ซึ่งจำเป็นต้องดูแลผิวอย่างอ่อนโยน จึงเชื่อมั่นว่า “Dr.Ple” จะเป็นแบรนด์ที่ตอบโจทย์ของกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี

 

“กลุ่มเป้าหมายหลักของแบรนด์ Dr.Ple คือกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน นำเสนอในราคาจับต้องได้ เนื่องจากเรามีการวิจัยและพัฒนา และการผลิตอย่างครบวงจรภายใต้โรงงานของเราเอง ราคาประมาณ 600 บาทขึ้นไป แต่จะมีสินค้าไซส์เล็กในราคา 150 – 300 บาท เพื่อให้ลูกค้าทั่วไปได้เกิดการทดลองและเข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้น

 

ดร.นฤมล กล่าวในตอนท้ายว่า จากประสบการณ์ในการศึกษาและทำตลาดมากว่า 10 ปี ทำให้มองเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคและความท้าทายใหม่ ๆ ซึ่งเจ้าของแบรนด์ต้องปรับตัวให้พร้อมรับกับกระแสได้อย่างเท่าทัน โดยเฉพาะพฤติกรรมของคนไทยที่หันมาใช้บริการคลินิกความงามกันมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยกลุ่มเหล่านี้จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและปลอดภัย ทดแทนการใช้ยาที่มีส่วนผสมสเตียรอยด์ ซึ่งในตลาดยังมีอยู่น้อยมาก ถือเป็นช่องว่างและโอกาสของ “Dr.Ple” เวชสำอางที่สามารถพบได้ทั้งในคลินิกและช่องทางการจำหน่ายโดยทั่วไป มาพร้อมราคาที่จับต้องได้ง่าย ภายใต้ประสิทธิภาพและมาตรฐานที่เพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้าได้จริง

 

เตรียมพบกับ Dr.Ple เวชสำอางของคนรักและใส่ใจสุขภาพผิวได้ในช่องทางออนไลน์ อาทิ Shopee, Lazada, Tiktok, Facebook, Instragram ฯลฯ ภายในเดือนมกราคม 2568 ติดตามข่าวสารและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ไลน์ เฟซบุ๊ก เว็บไซต์ (หากยังไม่มี สามารถตัดออกได้)