กองทุนสิ่งแวดล้อมจัดการสัมมนาเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ การดำเนินงานของกองทุนสิ่งแวดล้อม
“กองทุนสิ่งแวดล้อม มุ่งมั่น สร้างสรรค์ เปลี่ยนผ่านสู่โลกที่ยั่งยืน The Environmental Fund: Creative Transition to Sustainable World”
งาน Jewellery & Gem ASEAN Bangkok 2025 (JGAB 2025) เพิ่งปิดฉากลงไปอย่างสมบูรณ์แบบ โดยในปีนี้สามารถดึงดูดผู้ร่วมงานจากทั่วโลกกว่า 10,663 คน จาก 84 ประเทศ ซึ่งในจำนวนนี้เป็นผู้ประกอบการไทยถึง 52% พร้อมกับผู้จัดแสดงสินค้าชั้นนำกว่า 350 ราย จาก 15 ประเทศทั่วโลก นับเป็นความสำเร็จที่ต่อยอดจากปีก่อนหน้า ตอกย้ำบทบาทของงานในฐานะแพลตฟอร์มสำคัญระดับภูมิภาคสำหรับอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ
นายสรรชาย นุ่มบุญนำ ผู้จัดการทั่วไป อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย กล่าวว่า ปีนี้ JGAB ได้สร้างสีสันและความน่าสนใจให้กับวงการอัญมณีอาเซียน ด้วยกิจกรรมและโซนจัดแสดงสุดพิเศษ โดยหนึ่งในจุดเด่นของงานคือ “The ASEAN’s Masterpieces Gallery” ที่รวบรวมผลงานเครื่องประดับอันทรงคุณค่าจากประเทศสมาชิกอาเซียน สะท้อนความหลากหลายทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น
ขณะเดียวกัน “The Gallery of Thai Silver” ได้โชว์เทรนด์เครื่องประดับเงินไทยแห่งอนาคต ผ่าน 5 คอนเซ็ปต์เด่น ได้แก่ Futuristic, Preservation, Dystopian Beauty, Toys Story และ H-Generation ซึ่งสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ชมเป็นอย่างมาก
อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญคือการประกวด “The Next Gem Contest 2025” ที่เปิดเวทีให้นักออกแบบรุ่นใหม่จากไทยได้โชว์ศักยภาพภายใต้ธีม “Boundless Creativity” โดยผลงานที่เข้าประกวดสะท้อนถึงจินตนาการอันไร้ขีดจำกัด และการผสมผสานเอกลักษณ์ไทยเข้ากับดีไซน์ร่วมสมัยได้อย่างลงตัว
ด้านกิจกรรมสัมมนาและเวิร์กชอปภายในงานได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการประชุมระดับภูมิภาค “ASEAN Jewellery and Gem Summit 2025″ ซึ่งมุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายธุรกิจข้ามพรมแดน และเปิดเวทีแลกเปลี่ยนมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมจากหลากหลายประเทศ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมเสริมองค์ความรู้ในหลากหลายหัวข้อ ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์ตลาดโลก กลยุทธ์การขยายธุรกิจ และเทคนิคการตรวจสอบคุณภาพอัญมณี ซึ่งล้วนมีบทบาทสำคัญในการยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการ นักออกแบบ และผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ
และงาน JGAB 2025 ปีนี้สามารถดึงดูดผู้ร่วมงานรวม 10,663 คน จาก 15 ประเทศทั่วโลก พร้อมผู้จัดแสดงสินค้าชั้นนำ 350 ราย จาก 15 ประเทศทั่วโลก ซึ่งในจำนวนนี้เป็นผู้ประกอบการไทยถึง 52% แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของไทยในฐานะศูนย์กลางอุตสาหกรรมเครื่องประดับอาเซียน และจากการวิเคราะห์ผู้เข้าร่วมงาน พบว่ากว่า 52% เป็นผู้บริหารระดับสูงและเจ้าของกิจการ ขณะที่อีก 35% เป็นผู้จัดจำหน่าย นักออกแบบเครื่องประดับและนักอัญมณี โดยผู้ซื้อจากต่างประเทศที่เดินทางมาร่วมงานมากที่สุด ได้แก่ จีน อินเดีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ ศรีลังกา ฮ่องกง ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เวียดนาม และมาเลเซีย สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้เล่นในอุตสาหกรรมจากทั่วโลกต่อศักยภาพของภูมิภาคอาเซียน
นายสรรชาย กล่าวเพิ่มเติมว่า “ความสำเร็จของ JGAB 2025 สะท้อนถึงบทบาทที่แข็งแกร่งของงานในฐานะแพลตฟอร์มการค้าและเครือข่ายระดับภูมิภาค ที่เชื่อมโยงผู้ซื้อ ผู้นำเข้า ผู้จัดจำหน่าย และผู้ผลิตจากทั่วโลกเข้าด้วยกัน ปีนี้ งานไม่ได้เป็นเพียงแค่งานแสดงสินค้าเท่านั้น แต่ยังเป็น ‘มหกรรมแห่งโอกาส’ ที่เปิดเวทีให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ การเจรจาธุรกิจ และความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างคึกคัก”
“การตอบรับจากผู้เข้าร่วมงานทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนผู้มีบทบาทในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของภูมิภาคอาเซียนในฐานะศูนย์กลางตลาดเครื่องประดับระดับโลกที่น่าจับตามอง”
ความสำเร็จในปีนี้ยังเน้นย้ำถึง ศักยภาพของไทยในฐานะศูนย์กลางธุรกิจเครื่องประดับ ที่สามารถผสมผสานเอกลักษณ์ท้องถิ่นเข้ากับนวัตกรรมสมัยใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งผ่านผลงานใน The Gallery of Thai Silver และความสร้างสรรค์ของนักออกแบบรุ่นใหม่ใน The Next Gem Contest 2025 ที่สำคัญ คลังความรู้จากเวิร์กชอปและสัมมนาต่างๆ ได้ปูทางให้ผู้ประกอบการเห็น เทรนด์อนาคตและช่องทางขยายธุรกิจ โดยเฉพาะโอกาสจากตลาดจีนและเมืองรอง ซึ่งจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมในปีต่อๆ ไป
ด้วยความสำเร็จนี้ JGAB 2026 จึงน่าจับตามองยิ่งขึ้น เพราะไม่เพียงต่อยอดจากปีก่อน แต่ยังอาจเป็นเวทีที่เปิดศักราชใหม่ให้วงการอัญมณีอาเซียนก้าวขึ้นสู่การเป็น “ตลาดระดับท็อปของโลก” อย่างเต็มตัว
สำหรับผู้ที่พลาดงานปีนี้ สามารถเตรียมตัวล่วงหน้าได้เลย เพราะ Jewellery & Gem ASEAN Bangkok 2026 จะกลับมาอีกครั้งในวันที่ 22-25 เมษายน 2569 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) กรุงเทพฯ ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.jewellerygemaseanbkk.com
“กองทุนสิ่งแวดล้อม มุ่งมั่น สร้างสรรค์ เปลี่ยนผ่านสู่โลกที่ยั่งยืน The Environmental Fund: Creative Transition to Sustainable World”
Eventpop, Thailand’s leading event management and ticketing platform, and World have forged a landmark alliance to bring a new era of fair, transparent ticketing for real fans and decisively shutting out bots.
Eventpop แพลตฟอร์มจัดการอีเวนต์และจำหน่ายบัตรชั้นนำของประเทศไทยจับมือกับ World สร้างพันธมิตรครั้งสำคัญ ก้าวสู่ยุคใหม่ของการจำหน่ายบัตรที่ยุติธรรม โปร่งใส สำหรับแฟนคลับตัวจริง และปิดกั้นบอตอย่างเด็ดขาด
MSC จับมือ TERA ลงนามสัญญาความร่วมมือดำเนินธุรกิจ เพื่อรองรับการเติบโตทั่วโลกอย่างก้าวกระโดดของ AWS Public Cloud และ GenAI
วันนี้ (10 กันยายน 2568) เวลา 09.00 น. นางอรนุช หล่อเพ็ญศรี รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รอง ปกท.ทส.) ให้การต้อนรับ Mr. Kajiwara Toru อัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยด้านเศรษฐกิจ (Minister and Chief of the Economic Section, Embassy of Japan in Thailand) ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะและแนะนำตัว ณ ห้องประชุม 201 ชั้น 2 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
วันนี้ (10 กันยายน 2568) เวลา 09.30 น. นายสิทธิชัย เสรีส่งแสง รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รอง ปกท.ทส.) เป็นประธานเปิดงานการจัดการองค์ความรู้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 “KM Day 2025” ภายใต้แนวคิด “Go Together for the Better Life” พร้อมทั้งมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่ 15 หน่วยงานที่ร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้และร่วมเยี่ยมชมนิทรรศการของแต่ละหน่วยงาน พร้อมพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเจ้าหน้าที่ เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมการทำงานของกระทรวงฯ อย่างต่อเนื่อง โดยมีนายสยาม ช้างเนียม ผู้อำนวยการสถาบันการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงาน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงฯ เข้าร่วมงาน ณ ห้องประชุมอารีสัมพันธ์ ชั้น 3 อาคารกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม และผ่านระบบออนไลน์