ยกระดับแบรนด์ไทย
ยกระดับแบรนด์ไทย
นางสาวปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการสำนักงาน รักษาการแทนผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า สสว. ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล ให้ดำเนินโครงงานหนึ่งรหัส หนึ่งผู้ประกอบการ (One Identification : ID One SMEs) โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อมุ่งเน้นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการ SME ของไทยลดภาระการเตรียมเอกสารเพื่อติดต่อและขอรับบริการกับหน่วยงานภาครัฐ โดยเป็นการบูรณาการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการบริหารงานและให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ โดยร่วมกับสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.) พัฒนาระบบทะเบียนและการยืนยันตัวตนสำหรับผู้ประกอบการSME ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล และเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่ปี 2565 พร้อมกับบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐที่มีภารกิจให้บริการผู้ประกอบการ SMEเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลจากระบบฐานข้อมูล SME One ID ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเข้ารับบริการกับหน่วยงานรัฐโดยไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนใหม่ และที่สำคัญผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงบริการและโครงการต่างๆ ของหน่วยงานภาครัฐได้อย่างสะดวก รวดเร็วโดยไม่ต้องรอการยืนยันเอกสารเช่นรูปแบบเดิม
“SME ONE ID เปรียบเสมือนตัวตนในรูปแบบ Digital ID ของผู้ประกอบการ SME ที่มีการพิสูจน์ตัวตนในระดับที่มีความน่าเชื่อถือสามารถอ้างอิงข้อมูลและยืนยันตนเอง SME ได้ ปัจจุบัน สสว. ได้พัฒนาช่องทางการขึ้นทะเบียนให้มีความหลากหลายเพื่อรองรับการใช้งาน และอำนวยความสะดวกของผู้ประกอบการ โดยสามารถขึ้นทะเบียนด้วยตนเองผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่ 1) เว็บไซต์ http://bizportal.go.th 2) SME CONNEXT ที่แอพลิเคชั่นเพื่อผู้ประกอบ SME รองรับการใช้งานทั้งในระบบ IOS และระบบ Android 3) แอพลิเคชั่นทางรัฐ และยังสามารถขึ้นทะเบียนได้ที่ศูนย์บริการ SME ครบวงจร ครอบคลุม 77 จังหวัด ทั่วประเทศ”
จากการขึ้นทะเบียนและการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานที่ผ่านมาจนปัจจุบัน สสว.มีฐานข้อมูลผู้ประกอบการ ในระบบ SME ONE ID รวมจำนวน 1,112,078 ราย (ข้อมูล ณ พฤษภาคม 2568) โดยดำเนินการบูรณาการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานผ่านระบบ SME ONE ID เรียบร้อยแล้วจำนวน 11 หน่วยงาน ได้แก่ กรมสรรพากร, สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน, กรมการพัฒนาชุมชน, กระทรวงอุตสาหกรรม, กระทรวงแรงงาน, กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ,สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม, กรมส่งเสริมการเกษตร,ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม, กรมทรัพย์สินทางปัญญา และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
“ปีนี้ สสว.มีแผนการบูรณาการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงาน เพิ่มเติมอีก 9 หน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แก่
1) กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
2) กรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน
3) สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
4) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
5) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
6) กรุงเทพมหานคร
7) บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด
8) บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม
9) บริษัท อินเทอร์เน็ต ประเทศไทย จำกัด (มหาชน)
ซึ่งทั้งหมดนี้เราจะร่วมกับบูรณาการข้อมูลผู้ประกอบการ SME เพื่ออำนวยความสะดวก รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ พร้อมยกระดับมาตรฐานการเชื่อมโยงข้อมูลสู่การพัฒนาสิทธิประโยชน์ที่ครอบคลุมกับความต้องการของผู้ประกอบการ SME เพื่อส่งเสริมพัฒนาผู้ประกอบการไทยให้แข็งแกร่งและปลอดภัยในโลกยุคดิจิทัล ทั้งนี้สสว. มีเป้าหมายในการบูรณาการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานภายในปีงบประมาณ 2569 สะสมรวม 25 หน่วยงาน”
ในปัจจุบัน ฐานข้อมูล SME ONE ID มีในระบบรวมจำนวน 1,112,078 ราย แบ่งเป็นข้อมูลบุคคลธรรมดา 60,659 ราย ข้อมูลนิติบุคคล 948,751 ราย ขึ้นทะเบียนวิสาหกิจชุมชน 82,769 ราย และ Pre-Start Up หรือ ผู้สนใจเริ่มต้นธุรกิจ 19,899 ราย
ดีพร้อม เดินหน้ากิจกรรมการพัฒนาศักยภาพบุคลากรในอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายไทย
โอซีซี เปิดบูธแสดงสินค้า งานสหกรุ๊ปแฟร์ & เฟส ครั้งที่ 29
เปิดงาน Cosmoprof CBE ASEAN Bangkok 2025 งานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมความงามระดับภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุด ระหว่างวันที่ 25–27 มิถุนายน 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
เปิดตัววันแรกกับงาน Thailand Wellness & Healthcare Expo 2025 งานเดียวที่รวบรวมสินค้าสุขภาพ เครื่องมือแพทย์ เวชภัณฑ์ อาหารเสริม อุปกรณ์ฟิตเนส เทคโนโลยีทางการแพทย์ อาหารเพื่อสุขภาพ สปา และเวลเนสที่ครบวงจรที่สุด พร้อมใจมาจัดโปรโมชั่นพิเศษกลางปีรวมกว่า 170 บูธ ตอบโจทย์คนรักสุขภาพและผู้สนใจลงทุนด้านสุขภาพและเวลเนส ครบเครื่องด้วยกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งเสวนาให้ความรู้จากผู้ทรงคุณวุฒิทั้งในและต่างประเทศ ที่มาร่วมแบ่งปันองค์ความรู้และอัพเดทเทรนด์สุขภาพระดับโลก งานจัดต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 29 มิถุนายนี้ ณ ฮอลล์ 101 ไบเทคบางนา คาดเม็ดเงินสะพัดในงานกว่า 120 ล้านบาท
บริษัท อีมิแน้นท์แอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง พร้อมหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เดินหน้าจับมือลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนในโครงการ “เศรษฐกิจหมุนเวียน” สำหรับผลิตภัณฑ์เกษตรและอุตสาหกรรมมูลค่าสูง ภายใต้แนวคิด Waste to Wealth ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง