“RMUTT Partners with ACTEC Japan to Drive ‘PRSS’ NEW PLA-KUN Innovation for Underground Water Storage, Tackling Flood and Drought Challenges in Thailand”
มทร. ธัญบุรี จับมือ ACTEC ญี่ปุ่น เดินหน้านวัตกรรม “PRSS” NEW PLA-KUN
วันที่ 18 มิถุนายน 2568, Times Higher Education (THE) องค์กรจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำจากประเทศอังกฤษ ได้ประกาศผล “THE Impact Rankings 2025” โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี อยู่อันดับที่ 11 และเป็น 1 ใน 14 มหาวิทยาลัยของไทยที่ติดอันดับ Top 400 – 600 ของโลก ร่วมกับ 13 สถาบันการศึกษาชั้นนำของไทย (มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยมหิดล, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์, สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT), มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, มหาวิทยาลัยขอนแก่น, สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง, มหาวิทยาลัยนเรศวร และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี) และเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏเพียงแห่งเดียวที่สามารถก้าวขึ้นสู่อันดับดังกล่าว
โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี มีเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนโดดเด่นและสามารถทำคะแนนได้สูงสุด 3 ตัวชี้วัด ได้แก่
• เป้าหมายที่ 15 ปกป้อง ฟื้นฟู และสนับสนุนการใช้ระบบนิเวศบนบกอย่างยั่งยืน จัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน ต่อสู้การกลายสภาพเป็นทะเลทราย หยุดการเสื่อมโทรมของที่ดินและฟื้นสภาพกลับมาใหม่ และหยุดการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ
• เป้าหมายที่ 14 อนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากมหาสมุทร ทะเลและทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
• เป้าหมายที่ 6 สร้างหลักประกันเรื่องน้ำและการสุขาภิบาล ให้มีการจัดการอย่างยั่งยืนและมีสภาพพร้อมใช้ สำหรับทุกคน ช
ซึ่งในปี 2025 มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ได้รับการจัดอันดับดีขึ้นกว่าปีที่ผ่าน ๆ มา โดยในปี 2024 อยู่อันดับที่ 25 และในปี 2023 อยู่อันดับที่ 57 ของประเทศ
สำหรับประกาศผล “THE Impact Rankings 2025” เป็นการจัดอันดับมหาวิทยาลัยทั่วโลกจำนวน 2,526 แห่ง จาก 130 ประเทศ ที่โดดเด่นในการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) การจัดอันดับนี้ประเมินจาก 4 ขอบเขตหลัก ได้แก่ งานวิจัย (research), นโยบายและแนวปฏิบัติภายในมหาวิทยาลัย (stewardship), การเชื่อมโยงกับสังคม (outreach) และ การเรียนการสอน (teaching) โดยคะแนนรวมจะคิดจากคะแนนของเป้าหมายที่ 17 (ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน) และอีก 3 เป้าหมายที่แต่ละมหาวิทยาลัยทำคะแนนได้สูงสุด เพื่อสะท้อนความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
โดย มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ได้รับการจัดอันดับผลการดำเนินการในหลากหลายด้าน ประกอบด้วย
SDG 1 – no poverty คะแนน 45.7 อันดับ 31 ของไทย
SDG 2 – zero hunger คะแนน 72.4 อันดับ 12 ของไทย
SDG 3 – good health and well-being คะแนน 45.0 อันดับ 42 ของไทย
SDG 4 – quality education คะแนน 61.8 อันดับ 27 ของไทย
SDG 5 – gender equality คะแนน 56.0 อันดับ 21 ของไทย
SDG 6 – clean water and sanitation คะแนน 74.5 อันดับ 10 ของไทย
SDG 7 – affordable and clean energy คะแนน 45.6 อันดับ 29 ของไทย
SDG 9 – industry, innovation and infrastructure คะแนน 18.58 อันดับ 31 ของไทย
SDG 11 – sustainable cities and communities คะแนน 34.3 อันดับ 45 ของไทย
SDG 13 – climate action คะแนน 39.9 อันดับ 19 ของไทย
SDG 14 – life below water คะแนน 72.5 อันดับ 8 ของไทย
SDG 15 – life on land คะแนน 83.9 อันดับ 2 ของไทย
SDG 16 – peace, justice and strong institutions คะแนน 62.1 อันดับ 9 ของไทย
SDG 17 – partnership for the goals คะแนน 69.9 อันดับ 33 ของไทย
ความสำเร็จในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นความภาคภูมิใจของมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณีเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงผลักดันให้มหาวิทยาลัยเดินหน้าสู่การเป็นแหล่งความรู้และสร้างสรรค์นวัตกรรมชั้นนำ ที่มุ่งมั่นนำองค์ความรู้ไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาท้องถิ่นและชุมชน ดังวิสัยทัศน์ที่ว่า “แหล่งภูมิปัญญา สร้างนวัตกรรม สู่การพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืน” สามารถติดตามรายละเอียดเป้าหมายของมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี กับการเข้าร่วมการเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนได้ที่ https://sdg.rbru.ac.th
