ชลิต อินดัสทรี รวมพลังบริจาคโลหิต ชวนร่วมเป็น “ผู้ให้” แทนความรัก ความห่วงใย เนื่องในเดือนวันแม่แห่งชาติชลิต อินดัสทรี รวมพลังบริจาคโลหิต ชวนร่วมเป็น “ผู้ให้” แทนความรัก ความห่วงใย เนื่องในเดือนวันแม่แห่งชาติ

           สิงหาคม เป็นเดือนแห่งวันแม่บรรยากาศเต็มไปความรัก ความกตัญญู และการแสดงออกถึงความห่วงใยต่อ “แม่” ผู้มีพระคุณสูงสุดของชีวิต  เนื่องในโอกาสเดือนอันเป็นมงคลนี้  ผู้บริหารและพนักงานบริษัทชลิต อินดัสทรี จำกัด ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแสดงพลังความรักความห่วงใย และการเป็นผู้ “ให้” ด้วยการจัดกิจกรรม “ชลิต อินดัสทรี รวมพลังบริจาคโลหิต” ปี 5 เนื่องในเดือนวันแม่แห่งชาติ 2568   เพื่อร่วมแสดงพลังส่งต่อโลหิตสู้วิกฤติเลือดขาดแคลน ซึ่งในทุกๆวันมีผู้ป่วยจำนวนมากที่ต้องการเลือดอย่างเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นเหยื่ออุบัติเหตุ ผู้ป่วยผ่าตัด หรือผู้ป่วยโรคเรื้อรังบางประเภท ที่ยังเฝ้ารอความหวังจากทุกหยดเลือดเพื่อช่วยต่อลมหายใจต่อชีวิตให้กับพวกเขา

           การบริจาคโลหิตนับเป็นการ “ให้” ที่ยิ่งใหญ่ เลือดเพียงหนึ่งถุงจากผู้บริจาคหนึ่งคน อาจช่วยต่อชีวิตต่อลมหายใจให้ผู้ป่วยได้ถึง 3 ราย ซึ่งการบริจาคโลหิตไม่เพียงเป็นการทำความดีเพื่อผู้อื่น แต่ยังเป็นการสานต่อเจตนารมณ์แห่งความรัก ความเสียสละ เช่นเดียวกับความรักของแม่ที่ให้โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน มาร่วมสร้างความหมายพิเศษในเดือนแห่งวันแม่ปีนี้ ด้วยการบริจาคโลหิตแบ่งปันเลือดหยดสำคัญ ที่อาจช่วยต่อลมหายใจมอบ “ชีวิตใหม่” ให้ใครอีกหลายคนได้มีโอกาสกลับไปกอดแม่อีกครั้ง อันเป็นการแบ่งปันแก่สังคมและเสียสละเพื่อมนุษยธรรมอย่างแท้จริง

           เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการณรงค์ร่วมใจกันบริจาคโลหิต และร่วมแสดงพลังการเป็น “ผู้ให้” ด้วยหัวใจ แทนความรัก ความห่วงใย เนื่องในเดือนวันแม่แห่งชาติ บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนประกอบรถยนต์และอะไหล่ยาง ภายใต้แบรนด์ “POP” ได้สานต่อกิจกรรม “ชลิต อินดัสทรี รวมพลังบริจาคโลหิต” ปี 5  เนื่องในเดือนวันแม่แห่งชาติ 2568  โดยมี นางมนัสนันท์ เปรมพุฒิพันธ์ ร่วมด้วย นางสาวชัญญา ยงเห็นเจริญ กรรมการ บริษัทชลิต อินดัสทรี จำกัด  นำทีมผู้บริหารและพนักงานร่วมบริจาคโลหิตเพื่อต่อลมหายใจให้ผู้ป่วยต่อไป ณ สถานีกาชาดที่ 11 วิเศษนิยม บางแค ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 เพื่อช่วยปลูกจิตสำนึกให้กับพนักงานในการเป็น “ผู้ให้” และมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยมี นางสาวจุฑารัตน์  แก้วจันทร์เพชร  หัวหน้างานรับบริจาคโลหิตและพลาสมา สถานีกาชาดที่ 11 ร่วมรณรงค์เชิญชวนให้ประชาชนมาร่วมบริจาคโลหิต ซึ่งทุกคนสามารถเป็น “ฮีโร่ผู้ให้” ต่อชีวิตต่อลมหายใจผู้ป่วยได้ โดยไม่ต้องลงทุนทรัพย์ ด้วยการบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่องทุกๆ 3 เดือน เพียงแค่มีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง มีอายุ 17 ปีบริบูรณ์ – 70 ปี  น้ำหนัก 45 กิโลกรัมขึ้นไป รู้สึกสบายดี สุขภาพแข็งแรงพร้อมบริจาคโลหิต

คำแนะนำและการเตรียมตัวสำหรับผู้บริจาคโลหิต

ข้อมูลจาก ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย (https://thaibloodcentre.redcross.or.th/) ให้คำแนะนำสำหรับผู้บริจาคโลหิต ควรปฏิบัติตัว ดังนี้

  • นอนหลับสนิท พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่น้อยกว่า 5 ชม.
  • รู้สึกสบายดี สุขภาพแข็งแรง พร้อมที่จะบริจาคโลหิต หากอยุ่ระหว่างรับประทานยารักษาโรค ให้แจ้งแพทย์/พยาบาล ผู้ตรวจคัดกรองสุขภาพทุกครั้ง
  • รับประทานอาหารก่อนมาบริจาคโลหิต แต่ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง เช่น ข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ แกงกะทิขนมหวาน รวมถึงเครื่องดื่มที่ใส่ส่วนผสมที่มีไขมันสูง เช่น นมข้นหวาน ครีมเทียม ก่อนมาบริจาคโลหิต 6 ชม. เพราะจะทำให้พลาสมามีสีขาวขุ่น ไม่สามารถนำไปใช้รักษาผู้ป่วยได้
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ ก่อนบริจาคโลหิต 30 นาที ประมาณ 300 – 500 ซีซี ซึ่งจะเทียบเท่ากับปริมาณโลหิตที่เสียไปจากการบริจาค จะทำให้โลหิตไหลเวียนดีขึ้น และช่วยลดภาวะการเป็นลมหลังการบริจาคโลหิตได้
  • งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ก่อนมาบริจาคโลหิตอย่างน้อย 24 ชม.
  • งดสูบบุหรี่ ก่อนและหลังบริจาคโลหิต 1 ชม. เพื่อให้ปอดฟอกโลหิตได้ดี
  • นอกจากนี้ ผู้บริจาคโลหิตต้องไม่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร เพิ่งคลอดบุตร หรือแท้งบุตร , ไม่อยู่ในระหว่างรับประทานยาต่างๆ ที่ส่งผลกับการบริจาคโลหิต ,ไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ และไม่เคยใช้ยารักษาหรือป้องกันโรคเอชไอวี ควรเว้นระยะจากเข้ารับการอุดฟัน ขูดหินปูน ถอนฟัน หรือรักษารากฟัน มาแล้วอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เป็นต้น

ขอเชิญร่วมบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่องทุก 3 เดือน เพื่อช่วยบรรเทาวิกฤติเลือดขาดแคลน

           ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ขอเชิญชวนผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง ร่วมบริจาคโลหิตได้ที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ หน่วยรับบริจาคโลหิตใกล้บ้าน หรือโรงพยาบาลที่ให้บริการรับบริจาคโลหิตทั่วประเทศ โดยสามารถบริจาคซ้ำได้ทุก 3 เดือน ซึ่งการบริจาคโลหิตเพียงครั้งเดียว สามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยได้มากถึง 3 คน และยังถือเป็นการดูแลสุขภาพของผู้บริจาคไปในตัวอีกด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติม https://thaibloodcentre.redcross.or.th/