เอสวีแอล กรุ๊ป เติมพลังการเรียนรู้ เปิดมุมมองการทำงานจริง ให้น้อง ๆ ม.สุรนารี นครราชสีมา
เอสวีแอล กรุ๊ป (SVL Group) ร่วมกับ ศูนย์สหกิจศึกษาและพัฒนาอาชีพ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จัดกิจกรรม SVL Group University Roadshow : SUT Roadshow 2025
เพื่อสะท้อนความสำเร็จการดำเนินโครงการ “พลังคนรุ่นใหม่สร้างอนาคตที่ยั่งยืน หรือ Empowering Youth for a Sustainable Future” มูลนิธิ EDF (มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา) ภายใต้การสนับสนุนของวีเอฟเอส โกลบอล บริษัทเอาท์ซอร์สชั้นนำระดับโลกด้านเทคโนโลยี ที่สนับสนุนงานของรัฐบาลและสถานทูตทั่วโลก จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้นักเรียนในจังหวัดเชิงเทราที่เข้าร่วมโครงการ พร้อมนำเสนอผลงาน ผลสำเร็จในการประยุกต์ทักษะการเป็นผู้ประกอบการ และความรู้ด้านการเงินมาใช้ในการดำเนินโครงการ และมอบรางวัลโมเดลธุรกิจยอดเยี่ยม (Best Business Model Award) ซึ่งปรากฏว่าโรงเรียนบ้านคลองอุดม สามารถคว้ารางวัลไปครอง สำหรับโครงการนี้ได้มีส่วนร่วมส่งเสริมสร้างงานและสร้างรายได้ให้นักเรียนและครอบครัวในจังหวัดฉะเชิงเทรากว่า 1,900 คน
นายเคาชิค กอช หัวหน้าประจำภูมิภาคออสตราลาเซีย บริษัท วีเอฟเอส โกลบอล เปิดเผยว่า “สำหรับวีเอฟเอส โกลบอล แล้ว พวกเราภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้สนับสนุนโครงการดี ๆ เพื่อส่งเสริมเยาวชนไทยให้มีทักษะและความรู้เพื่อสรรสร้างการดำรงชีพที่ยั่งยืนซึ่งสะท้อนว่าการศึกษาเมื่อผสมผสานกับการเป็นผู้ประกอบการแล้วสามารถเปลี่ยนชีวิตที่ไม่ใช่เพียงตัวนักเรียนเอง แต่ยังรวมไปถึงโรงเรียน ครอบครัว และชุมชนด้วย ผมดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นนักเรียนได้ใช้ประโยชน์จากการฝึกอบรมมาอย่างเต็มที่ นำความรู้ที่ได้เรียนมาประยุกต์ใช้อย่างสร้างสรรค์และมุ่งมั่น วีเอฟเอส โกลบอล ยินดีสนับสนุนการทำงานต่อไปและยังสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของเราในการสนับสนุนการศึกษา เพิ่มพูนทักษะ และการเป็นผู้ประกอบการแก่เยาวชนทั่วโลก”
นายสรรเพชร นิลรัตน์ กรรมการผู้จัดการ มูลนิธิ EDF (มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา) กล่าวว่า “การดำเนินโครงการ “พลังคนรุ่นใหม่สร้างอนาคตที่ยั่งยืน” (Empowering Youth for a Sustainable Future) ร่วมกับวีเอฟเอส โกลบอล ประสบความสำเร็จอย่างมาก ช่วยส่งเสริมโอกาสการพัฒนาของนักเรียนที่ยากไร้ใน 8 โรงเรียน ในจังหวัดฉะเชิงเทรา ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมทั้งเพิ่มพูนโอกาสการจ้างงานในอนาคต ตลอดจนถึงการได้รับการส่งเสริมองค์ความรู้ด้านต่าง ๆ ที่สร้างรายได้เพื่อให้สามารถพึ่งพาตนเอง และยังมีรายได้ระหว่างเรียนให้กับครอบครัวตนเองได้ด้วย”
“ในฐานะองค์กรที่ประสานงานและดำเนินโครงการ “พลังคนรุ่นใหม่สร้างอนาคตที่ยั่งยืน” (Empowering Youth for a Sustainable Future) ผมขอชื่นชมนักเรียนแต่ละโรงเรียนที่ได้นำเสนอทักษะและแบ่งปันประสบการณ์การดำเนินโครงการให้เพื่อน ๆ โรงเรียนอื่นได้ทราบ และจากข้อมูลที่ว่านักเรียนและครอบครัวกว่า 1,900 ชีวิต ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำธุรกิจ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ความรู้ทางการเงิน การบริหารโครงการ และการทำงานร่วมกันเป็นทีม ผมมั่นใจว่านักเรียนเหล่านี้จะได้รับประสบการณ์การเรียนรู้มากมายและพร้อมเผชิญความท้าทายต่าง ๆ ในวันข้างหน้า”
นางจินตนา กฐินทอง ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาฉะเชิงเทรา เขต 2 กล่าวว่า “ดิฉันยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นภาคเอกชนระดับโลก เช่น วีเอฟเอส โกลบอล ได้มีส่วนร่วมพัฒนาการศึกษาและทักษะอาชีพด้วยการสนับสนุนโครงการ “พลังคนรุ่นใหม่สร้างอนาคตที่ยั่งยืน” (Empowering Youth for a Sustainable Future) ให้กับโรงเรียนในจังหวัดฉะเชิงเทรา ภายใต้การบริหารงานของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชิงเทรา เขต 2 จำนวน 8 แห่ง การส่งเสริมการศึกษาคือพันธกิจหลักของเรา ที่ไม่ได้จำกัดเพียงความรู้ด้านวิชาการเท่านั้น แต่ยังช่วยส่งเสริมพัฒนาพื้นฐานด้านอื่น ๆ ด้วย รวมถึงการคิดเชิงวิพากย์ การวิเคราะห์ และที่สำคัญยิ่งการนำความรู้ต่าง ๆ มาปรับใช้และพัฒนาตนเอง นอกจากนั้นสำนักงานการศึกษาฯ ขอขอบคุณมูลนิธิ EDF ที่เป็นหน่วยงานประสานงานและดำเนินโครงการซึ่งเป็นตัวอย่างอันดีเยี่ยมสะท้อนความร่วมมือของภาคเอกชนกับหน่วยงานการศึกษาของไทยเราได้เป็นอย่างดียิ่ง”
หน่วยงานหรือผู้ที่สนใจทำกิจกรรมโครงการพัฒนาในโรงเรียน หรือชุมชน หรือมอบทุนการศึกษาให้นักเรียนที่ยากจนร่วมกับมูลนิธิ EDF สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่อีเมล [email protected] หรือ Line: @edfthai หรือคลิกเว็บไซต์ www.edfthai.org หรือโทรศัพท์ 02-579-9210-11 (จันทร์-ศุกร์ 09.00-16.30 น.)
จากภาพ: นางจินตนา กฐินทอง (ที่ 4 จากซ้าย) ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาฉะเชิงเทรา เขต 2 นางสาวการ์กี้ ซัลวาน (ที่ 4 จากขวา) ผู้จัดการประจำประเทศไทย ลาว เมียนมา และกัมพูชา บริษัทวีเอฟเอส (ประเทศไทย) จำกัด นางเรีย ไวทญา (ที่ 2 จากขวา) รองประธานกรรมการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์และกิจกรรมเพื่อสังคม วีเอฟเอส โกลบอล นางสาวขนิษฐา กอผจญ (ที่ 3 จากขวา) ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัทวีเอฟเอส (ประเทศไทย) จำกัด นายวุฒิชัย ไพบูลย์สมบัติ (ขวาสุด) ผู้จัดการด้านความปลอดภัย บริษัทวีเอฟเอส (ประเทศไทย) จำกัด นายณัฐวุฒิ ผุยพรม (ซ้ายสุด) หัวหน้าแผนกวิชาการตลาด วิทยาลัยอาชีวศึกษาฉะเชิงเทรา นางอำไพ ตุ่มทองคำ (ที่ 2 จากซ้าย) หัวหน้างาน งานส่งเสริมผลิตผล การค้า และประกอบธุรกิจ วิทยาลัยอาชีวศึกษาฉะเชิงเทรา และนางเกษมศรี ยูเฟมิโย (ที่ 3 จากซ้าย) กรรมการมูลนิธิ EDF (มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา) ถ่ายภาพร่วมกับตัวแทนนักเรียนจาก 8 โรงเรียน ที่เข้าร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้โครงการ “พลังคนรุ่นใหม่สร้างอนาคตที่ยั่งยืน หรือ Empowering Youth for a Sustainable Future” ในงานได้มีการมอบรางวัลโมเดลธุรกิจยอดเยี่ยม (Best Business Model Award) แก่โรงเรียนบ้านคลองอุดม จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งชนะเลิศการประกวดด้วย
เกี่ยวกับมูลนิธิ EDF (มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา)
มูลนิธิ EDF (มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา) ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2530 และจดทะเบียนในรูปแบบองค์กรสาธารณกุศลลำดับที่ 255 ของประเทศไทย การดำเนินงานของมูลนิธิได้รับการยอมรับจากหน่วยงานต่าง ๆ และได้รับรางวัล เช่น ประกาศนียบัตรรับรองการดำเนินงานด้านองค์กรไม่แสวงผลกำไรจาก Charity Aids Foundation Group (CAF America) ที่มอบให้องค์กรสาธารณกุศลทั่วโลกที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานการดำเนินงานครอบคลุมหลักธรรมาภิบาล จดทะเบียนถูกต้อง รายงานการเงินประจำปีมีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ รวมทั้งเงินบริจาคและเงินสนับสนุนที่ส่งมอบให้มูลนิธินำไปใช้อย่างถูกต้องตรงตามวัตถุประสงค์เพื่อสาธารณกุศลอย่างแท้จริง รางวัลประกาศนียบัตรองค์กรสาธารณกุศลระดับ 5 ดาว ในการดำเนินงานและบริหารงานด้วยหลักธรรมาภิบาล มีประสิทธิภาพทางการเงิน และมีความโปร่งใสจากสมาคมกิฟวิ่ง แบค และรางวัลยอดเยี่ยมองค์กรพัฒนาเอกชนแห่งประเทศไทยประเภทองค์กรขนาดใหญ่จากมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ สถาบันคีนันแห่งเอเชีย และ เดอะ รีซอร์ส อัลลิอันซ์
เกี่ยวกับวีเอฟเอส โกลบอล
ในฐานะองค์กรชั้นนำระดับโลกด้านบริการเทคโนโลยี ที่ส่งเสริมการเดินทางที่ปลอดภัยสำหรับภาครัฐและประชาชน วีเอฟเอส โกลบอล ได้รวบรวมนวัตกรรมทางเทคโนโลยี รวมถึง AI เชิงสร้างสรรค์ที่สนับสนุนงานของรัฐบาลและสถานทูตทั่วโลก โดยดำเนินการด้านการบริหารและงานที่ไม่ใช่การประเมินที่เกี่ยวกับการสมัครวีซ่า หนังสือเดินทาง และบริการกงศุลสำหรับลูกค้าที่เป็นหน่วยงานรัฐบาล การเพิ่มผลผลิต และช่วยให้พวกเขาสามารถทำงานสำคัญที่ได้รับมอบหมายได้อย่างเต็มที่
ด้วยความรับผิดชอบที่เกี่ยวกับการพัฒนาเทคโนโลยีและการบูรณาการ วีเอฟเอส โกลบอล ให้ความสำคัญกับแนวทางปฏิบัติทางจริยธรรมและความยั่งยืน โดยบริษัทได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานรัฐบาล 69 ประเทศ พร้อมปฏิบัติงานด้านศูนย์ให้บริการยื่นวีซ่ากว่า 3,900 แห่ง ใน 165 ประเทศ และตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2544 เป็นต้นมา ได้พิจารณาเอกสารการยื่นขอวีซ่าจากใบสมัครกว่า 499 ล้านราย ทั้งนี้วีเอฟเอส โกลบอล มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยมีผู้ถือครองหุ้นส่วนใหญ่ผ่านทางกองทุนการลงทุนที่ดำเนินการโดย แบล็คสโตน อิงค์ (Blackstone Inc) ร่วมกับผู้ถือหุ้นรายย่อยรายอื่นรวมถึงคูโอนิ (Kuoni) ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และมูลนิธิฮูเก็นโทเบรอ (Hugentobler Foundation)
