ม.พะเยา ร่วมขับเคลื่อน “เมืองแห่งการเรียนรู้ประเทศไทย” จุดประกายการเรียนรู้ตลอดชีวิตสู่สังคมแห่งความเสมอภาค

 

รองศาสตราจารย์ ดร.สุภกร พงศบางโพธิ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยพะเยา มอบหมายให้ รองศาสตราจารย์ ดร.ผณินทรา ธีรานนท์ ผู้ช่วยอธิการบดี ร่วมกล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดงาน “Learning City: จุดประกายการเรียนรู้ตลอดชีวิตในเมืองแห่งการเรียนรู้” ซึ่งมหาวิทยาลัยพะเยา ถือเป็นสถาบันหลักในการริเริ่ม พัฒนา และขับเคลื่อนโครงการ Phayao Learning City โดยทำงานร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ อาทิ องค์การบริหารส่วนจังหวัดพะเยา เทศบาลเมืองพะเยา และชุมชน โดยใช้แนวคิดขององค์การยูเนสโก (UNESCO) เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตในทุกมิติของสังคม งานนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 30–31 ตุลาคม 2568 ณ อุทยานการเรียนรู้ TK Park ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร

กิจกรรมดังกล่าวจัดโดย หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (OKMD) และ มหาวิทยาลัยพะเยา เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนแนวทางการพัฒนาเมืองแห่งการเรียนรู้ และลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โดยมีผู้แทนจาก 7 พื้นที่ทั่วประเทศที่ได้รับทุนเข้าร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์

พิธีเปิดได้รับเกียรติจาก นายพัฒนะพงษ์ สุขมะดัน ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา กล่าวต้อนรับและเปิดการประชุม พร้อมด้วยการบรรยายพิเศษจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติ ได้แก่ Assist. Prof. Dr. Hiroko Shibakawa จาก Okayama University ประเทศญี่ปุ่น และ Assoc. Prof. Dr. Natasa Lackovic จาก Lancaster University และ UNESCO Institute for Lifelong Learning (UIL) โดยนำเสนอแนวทางการพัฒนาเมืองแห่งการเรียนรู้ตามโมเดล Okayama และบทบาทของมหาวิทยาลัยในการขับเคลื่อนการเรียนรู้เพื่อความเท่าเทียมทางการศึกษา

การจัดโครงการในครั้งนี้ได้มีการมอบรางวัล “เมืองแห่งการเรียนรู้ประเทศไทย ครั้งที่ 1” (Thailand Learning City Award) เพื่อยกย่องเมืองต้นแบบที่ขับเคลื่อนการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง โดยได้รับเกียรติจาก ดร.สีลาภรณ์ บัวสาย ประธานคณะอนุกรรมการที่ปรึกษาการขับเคลื่อนวิทยสถาน “ธัชภูมิ” บพท. เป็นประธานเปิดงาน พร้อมเปิดตัว Thailand Learning City Platform โดย รองศาสตราจารย์ ดร.ปุ่น เที่ยงบูรณธรรม และการประกาศผลรางวัลใน 4 ประเภทเมืองต้นแบบ ได้แก่

     1. เมืองเศรษฐกิจ
     2. เมืองอัตลักษณ์ท้องถิ่น
     3. เมืองสำหรับเด็กและเยาวชน
     4. เมืองลดความเหลื่อมล้ำ

รางวัลพิเศษ “เมืองดีเด่น” จำนวน 4 รางวัล มีพื้นที่เมืองได้รับรางวัล ดังนี้ เทศบาลเมืองปัตตานี (ด้านเมืองเศรษฐกิจ), เทศบาลเมืองตาก (ด้านเมืองอัตลักษณ์ท้องถิ่น), เทศบาลนครตรัง (ด้านเมืองสำหรับเด็กและเยาวชน) และ อบจ.ปัตตานี (ด้านเมืองลดความเหลื่อมล้ำ)

และโล่รางวัล “เมืองศักยภาพสูง” จำนวน 4 รางวัล มีดังนี้ เทศบาลเมืองกาญจนบุรี (ด้านเมืองเศรษฐกิจ), อบจ.สตูล (ด้านเมืองอัตลักษณ์ท้องถิ่น), อบต.เชียงดาว (ด้านเมืองสำหรับเด็กและเยาวชน) และเทศบาลเมืองแสนสุข (ด้านเมืองลดความเหลื่อมล้ำ) โล่รางวัลดังกล่าวถือเป็นการแสดงความสำเร็จของเมืองต้นแบบการเรียนรู้เพื่อความยั่งยืน

ภายในงานยังมีการเสวนา “Round Table & Learning Cities Talk: UNESCO-GNLC – 3 Voices, 1 Network” โดยตัวแทนจากเมืองแห่งการเรียนรู้ ได้แก่ พะเยา ขอนแก่น และฉะเชิงเทรา เพื่อแลกเปลี่ยนบทเรียนและแนวทางพัฒนาเมืองแห่งการเรียนรู้ในบริบทไทย

งาน Thailand Learning City Award ครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อนำเสนอเมืองต้นแบบและสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เมืองต่าง ๆ ในการพัฒนากลยุทธ์ที่นำไปสู่การสร้างเมืองแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมั่งคงและยั่งยืน พร้อมทั้งการยกย่องและเสริมสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญในแนวคิดดังกล่าว เพื่อกระตุ้นต่อผู้นำท้องถิ่นทั่วประเทศต่อการพัฒนาศักยภาพของเมืองด้วยข้อมูลและความรู้ พร้อมกับสนับสนุนให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมและขับเคลื่อนเป้าหมายสำคัญนี้ต่อการพัฒนาพื้นที่ในยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างแท้จริง นับเป็นอีกก้าวสำคัญของการขับเคลื่อนเครือข่าย Thailand Learning City สู่มาตรฐานสากล ด้วยพลังความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ที่ยั่งยืนและลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในประเทศไทย