การจัดอันดับแบรนด์เทคโนโลยีปี 2568: เจ้าแห่งอาณาจักร Mobile-First ของประเทศไทย

การจัดอันดับแบรนด์เทคโนโลยีปี 2568: เจ้าแห่งอาณาจักร Mobile-First ของประเทศไทย

ข่าวประชาสัมพันธ์ (สำหรับเผยแพร่ทันที)

กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย – 8 ธันวาคม 2568 – ในระบบการเชื่อมต่อดิจิตัลขั้นสูงของประเทศไทย ซึ่งมีประชากร 71.6 ล้านคน โดยเชื่อมต่อผ่านมือถือสูงถึง 99.5 ล้านหมายเลข (ที่มา: DataReportal) การทำให้ผู้คนรู้จักแบรนด์ไม่ใช่แค่เรื่องการตลาดอีกต่อไป แต่คือการปลูกฝังลงไปในชีวิตประจำวันของผู้คน อ้างอิงจากข้อมูลการจัดอันดับแบรนด์ล่าสุดจาก YouGov เผยเรื่องราวอันน่าทึ่งเกี่ยวกับสิ่งที่น่าสนใจและการเปลี่ยนแปลงของโลกดิจิทัลในประเทศไทย โดยที่การแข่งขันเพื่อชิงความเป็นหนึ่งในการดึงดูดความสนใจของผู้ใช้งานมีความเข้มข้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โดยแพลตฟอร์มใหญ่ๆทั้งหลาย กลายเป็นช่องทางสำคัญในส่วนหนึ่งของชีวิตผู้คน ในขณะที่แพลตฟอร์มน้องใหม่ต่างก็มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประชากรชาวไทยจำนวนมากถึง 91.2% และใช้เวลากับเนื้อหาดิจิทัลเกือบ 8 ชั่วโมงต่อวัน (ที่มา: DataReportal)

 

ลักษณะการใช้งานระบบดิจิตัลของประเทศไทย: 10 อันดับตัวช่วยสารพัชประโยชน์

10 อันดับแบรนด์ด้านเทคโนโลยีของไทยมีสิ่งที่เหมือนกัน คือ แบรนด์เหล่านั้นกลายเป็นมากกว่า “แอปพลิเคชัน”, “บริการ” หรือ “อุปกรณ์” ไปแล้ว และกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานของการใช้ชีวิตสมัยใหม่ของคนไทย โดยแบรนด์เหล่านี้ประสบความสำเร็จในการทำให้ตัวเองจากที่เคยเป็นแค่ทางเลือก สู่ “แพลตฟอร์มคู่ใจที่ขาดไม่ได้” (Habit Platforms) โดยความโดดเด่นของแพลตฟอร์มต่างๆนี้ สะท้อนถึงรูปแบบทางวัฒนธรรมและพฤติกรรมเฉพาะตัวที่เป็นเอกลักษณ์ของตลาดไทย

โครงสร้างระบบดิจิตัลที่มีต้องพึ่งพากัน

เมื่อสังเกตอย่างละเอียดจากประสบการณ์การใช้งานของคนไทยยิ่งทำให้เห็นว่า ทำไมแพลตฟอร์มที่สำคัญเหล่านี้จึงมีบทบาทที่สำคัญต่อชีวิตประจำวันอย่างยิ่ง:

YouTube (อันดับ 1) ทำหน้าที่เป็นสื่อหลักด้านความบันเทิงของไทย โดยมีผู้ใช้ถึง 47.6 ล้านคน หรือคิดเป็น 72.8% ของฐานผู้ใช้อินเทอร์เน็ตของประเทศ ตามข้อมูลจาก DataReportal ในระดับโลก ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 16 ในการใช้งาน (ที่มา: Statista)

TikTok (อันดับ 2) ได้พัฒนาตัวเองเป็นแพลตฟอร์มที่รองรับความหลากหลายสำหรับความบันเทิง การสำรวจการแสใหม่ๆ และการขายสินค้าโดยสร้างกระแสทางสังคม (social selling) โดยมีบัญชีที่สามารถเข้าถึงโฆษณาได้ 56.6 ล้านบัญชีในประเทศไทย (ที่มา: Nation Thailand)

Facebook (อันดับ 3) กลายเป็นพื้นที่ดิจิทัลสาธารณะหลักของไทย อ้างอิงข้อมูลจาก Popticles แสดงว่า 90.7% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศมีบัญชีบนแพลตฟอร์มนี้ ในขณะที่ Statista จัดให้ไทยอยู่ในอันดับที่ 11 ของโลกในการใช้งาน

LINE (อันดับ 4) กลายเป็นระบบประสาทดิจิทัลของประเทศไทย โดยมีผู้ใช้งานรายเดือนมากถึง 56 ล้านคน (ที่มา: DataReportal) แพลตฟอร์มนี้อยู่ในอันดับ 2 ของโลกในการใช้งานตามข้อมูลจาก World Population Review และเป็นส่วนสำคัญสำหรับการส่งข้อความ ชำระเงิน และสั่งอาหาร

Google (อันดับ 5) ยังคงเป็นช่องทางหลักสู่การค้นหาข้อมูล ความโดดเด่นในการค้นหามีส่วนแบ่งตลาดในไทยเกิน 95% (ที่มา: CloudTech) แม้จะมีวิธีการค้นพบทางเลือกอื่นๆ เกิดขึ้น

 

ทิศทางในอนาคตของแพลตฟอร์ม: สมรภูมิแย่งชิงเวลาและดึงดูดความสนใจจากผู้ใช้งาน

ความโดดเด่นของวิดีโอในประเทศที่มือถือเป็นหลัก

การเติบโตของแพลตฟอร์มวิดีโอในประเทศไทยไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐานในการเลือกชมเนื้อหาและความเกี่ยวข้องต่อชีวิตประจำวันของคนไทย ด้วยจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตชาวไทย 98% ใช้เวลาบนสมาร์ทโฟนมากถึง 63.3% จากเวลาที่ใช้อินเทอร์เน็ตทั้งหมด ตามข้อมูลจาก Meltware จากสถานการณ์นี้จึงส่งผลให้แพลตฟอร์มด้านวิดีโอเติบโตขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบ

ความจริงที่ว่า YouTube (#1) และ TikTok (#2) อยู่ในตำแหน่งสูงสุดของวงการนี้ อีกทั้งยังเหนือกว่า Facebook และ Line โดยวัดจากการใช้เวลาที่ยาวนานของผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคชาวไทย: วิดีโอกลายเป็นการสื่อสารหลักของชาติ ในขณะที่ TikTok มักถูกมองว่าเป็นผู้ท้าชิงในวงการ แต่ข้อมูลกลับชี้ให้เห็นว่า Tiktok มีความหลากหลายในการที่จะเป็นสื่อด้านวิดีโอมากกว่าที่จะพยายามไปแทนที่ Youtube

อันดับที่ 1 ด้วยคะแนน 60.5 YouTube ยังคงเป็นแชมป์ที่ไร้เทียมทาน ในการดึงดูดความสนใจระยะยาว (long-form attention) ตามข้อมูลจาก DataReportal’s 2025 Digital insights ผู้ใช้ชาวไทยยังคงมีนิสัยการใช้งานแบบ “Lean-Back” โดยใช้เป็น “โทรทัศน์ดิจิทัล” เพื่อการศึกษา ดนตรี และความบันเทิงในช่วงเวลาสำคัญต่างๆ ของชีวิต

อันดับ 2 ด้วยคะแนน 56.1 TikTok ได้กลายเป็น “เครื่องยนต์แห่งการสร้างความสุข” (Dopamine Engine) ข้อมูลจาก YouGov เผยว่าในขณะที่มีการใช้งานโดยทั่วไปค่อนข้างจะใช้จำนวนมากบนแพลตฟอร์มแล้ว แต่ Gen Z ไทย 53% ใช้เวลาบนแพลตฟอร์มนี้เกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน ในขณะที่ Boomers มีเพียง 16% จากประชากรทั้งหมดที่ใช้งานแพลตฟอร์มนี้

การแบ่งแยกทางฮาร์ดแวร์: iPhone (#7) vs. Samsung (#9)

สมรภูมิด้านฮาร์ดแวร์ใน 10 อันดับแรกมีการศึกษาเกี่ยวกับแบรนด์ที่ส่งผลต่อจิตวิทยาอย่างน่าสนใจ

iPhone: การจัดอันดับที่สูงกว่าคู่แข่งแสดงให้เห็นว่า Apple เป็นตัวแทนของ “สัญลักษณ์แห่งความปรารถนา” (Aspirational Badge) ในประเทศไทย iPhone เป็นเครื่องบ่งชี้สถานะทางสังคมและความสามารถด้านความคิดสร้างสรรค์ ข้อมูลตลาดล่าสุดจาก GS StatCounter ชี้ว่า Apple มีส่วนแบ่งตลาดที่แข็งแกร่ง (~32%) เหนือ Samsung (~20%) ซึ่งตอกย้ำสถานะการเป็น “สกุลเงินทางสังคม” (Social Currency) ของแบรนด์นั้นเอง

Samsung: สาเหตุที่ Samsung อยู่ใน 10 อันดับแรกเนื่องจากมีภาพลักษณ์ของ “นวัตกรรมที่ใช้งานได้จริง” (Functional Innovation) ซึ่งดึงดูดผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีที่มองเห็นการต่อยอดและพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง

บทสรุป: ในขณะที่ Samsung มักนำหน้าในด้านปริมาณผู้ใช้งาน แต่ในประเทศไทย การทำให้ผู้ใช้งานมีความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกับระบบธุรกิจของ Apple ผลักดันให้ iPhone ขึ้นมีอันดับสูงกว่าสองอันดับ และยังติดอันดับ 1 ในส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนอีกด้วย (ที่มา: GS StatCounter)

 

การขึ้นสู่อันดับของแพลตฟอร์มเฉพาะกลุ่มและน้องใหม่ของวงการ

เจาะลึกแพลตฟอร์มน้องใหม่ที่เติบโตจนเป็นผู้นำในวงการ

ในขณะที่ 10 อันดับแรกเป็นตัวแทนจากบริษัทยักษ์ใหญ่ สถานการณ์ที่น่าทึ่งที่สุดในการจัดอันดับมาจากแพลตฟอร์มที่มีเอกลัษณ์และใช้ประโยชน์จากช่องว่างเฉพาะในระบบธุรกิจดิจิทัลของประเทศไทย แพลตฟอร์มน้องใหม่ที่เติบโตจนเป็นผู้นำในวงการเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าแม้ในตลาดที่แออัด โอกาสยังคงมีอยู่สำหรับแพลตฟอร์มที่มีความเป็นเอกลักษณ์และตอบโจทย์ต่อความต้องการของผู้ใช้งาน

ทำไม Lemon8 ถึงมาแรงแซงทุกแบรนด์พร้อมกับคะแนนการเติบโตอย่างอลังการที่ +24.4 ผู้บริโภคชาวไทยกำลังประสบกับความเบื่อหน่ายจากอินฟลูเอนเซอร์บน TikTok และ Instagram Lemon8 มุ่งเน้นที่จะให้ตัวเองเป็นแพลตฟอร์มที่ไม่ต้องพึ่งพาการจ่ายเพื่อสนับสนุน ตามข้อมูลจาก Amra & Elma มันเป็นเหมือนคัมภีร์ไลฟ์สไตล์ที่ผสมผสานระหว่าง Pinterest กับ Instagram แต่เน้นที่รีวิวที่มีรายละเอียดและมีประโยชน์ ซึ่งช่วยเติมเต็มให้เป็นการค้นหาข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้อีกทางนึง

การเติบโตอย่างรวดเร็วของ Pinterest (+16.1) สัมพันธ์กับความต้องการ “การออกแบบชีวิต” (Life Design) หลังจากสถานการณ์โควิท-19 อ้างอิงจาก Reliance Consulting ว่า การท่องเที่ยว การตกแต่งปรับปรุงบ้าน และงานแต่งงานที่เริ่มทำให้ชีวิตกลับมาคึกคักอีกครั้ง ชาวไทยจำนวนมากจึงหันไปหา Pinterest โดยมีจุดมุ่งเน้นเพื่อ “แรงบันดาลใจแบบเงียบๆ (Introverted Inspiration)” (ที่มา: Meltwater) ซึ่งจัดเป็นแพลตฟอร์มเดียวในรายการนี้ที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวผู้ใช้งานเองอย่างแท้จริง โดยผู้ใช้งานไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของตนเองบนแพลตฟอร์ม

ในขณะที่ Netflix Thailand (+3.7) มีการเติบโตที่มั่นคงในฐานะเจ้าหลักของวงการ การก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของ HBO GO (+9.7) ถูกขับเคลื่อนโดยละครทีวีที่ฉายบนแพลตฟอร์มโดยเฉพาะ จากการรวบรวมรายการดังต่างๆและเปิดตัวซีรีย์ฟอร์มยักษ์ อย่างเช่น House of the Dragon ได้ผลักดันให้มีการสมัครสมาชิกที่มีสนใจสูง (high-intent signups) การวิเคราะห์ตลาดโดย PwC ชี้ว่าบริการวิดีโอ OTT เป็นภาคสื่อที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทย คาดว่าจะเติบโตมากกว่า 21% ในปี 2568

การเติบโตของ Threads เป็นผลโดยตรงจากความผันผวนของ X (อดีต Twitter) (ที่มา: The Social Shepherd) ในขณะที่ X มีความวุ่นวายมากขึ้น Threads ก็ปรากฏขึ้นเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าสำหรับชุมชนที่เน้นส่งข้อความโดยการผนวกเข้ากับ Instagram ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้เชื่อมต่อได้ทันที ได้ขจัดอุปสรรคของการเริ่มต้นใหม่ ทำให้สามารถใช้ประโยชน์จากฐานผู้ใช้ขนาดใหญ่ของ Instagram ได้

โดยรวมแล้ว ข้อมูลแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนไปสู่แพลตฟอร์มที่นำเสนอการเป็นแหล่งค้นหาข้อมูลที่เชื่อถือได้ (authenticity), การเป็นแพบตฟอร์มที่สร้างขึ้นด้วยความตั้งใจ (intentionality) และเป็นมิตรต่อความรู้สึกของผู้ใช้งาน (emotional safety) เมื่อผู้ใช้ชาวไทยเบื่อหน่ายกับวัฒนธรรมอินฟลูเอนเซอร์แบบดั้งเดิมและความวุ่นวายในพื้นที่โซเชียล พวกเขาจึงหันไปหาช่องทางที่รู้สึกเป็นส่วนตัว มีประโยชน์ และมีเสถียรภาพมากกว่า

ผลกระทบเชิงกลยุทธ์และข้อสรุป

จากการสำรวจระบบธุรกิจของแพลตฟอร์ม

สำหรับนักการตลาดและผู้นำธุรกิจ การจัดอันดับแบรนด์ของประเทศไทยได้แสดงให้เห็นถึงข้อมูลเชิงลึกโดยสามารถนำไปวิเคราะห์กลยุทธ์ได้หลากหลายเพื่อตอบสนองต่อพฤตกรรมของชาวไทย:

ยอมรับความหลากหลายของแพลตฟอร์ม: การกระจายตัวของผู้ใช้เฉลี่ยจำนวน 7.1 แพลตฟอร์มต่อเดือน ตามข้อมูลจาก DataReportal หมายความว่าการเข้าถึงผู้ใช้งานที่มีประสิทธิภาพ จะต้องมีกลยุทธ์จากหลายแพลตฟอร์มที่ปรับให้เหมาะกับเป้าหมายและความคาดหวังของผู้ใช้ในแต่ละช่องทาง

ให้ความสำคัญกับประสบการณ์แบบ Mobile-First: ด้วยพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตของชาวไทย 98% ที่เข้าถึงเนื้อหาดิจิทัลผ่านสมาร์ทโฟนและใช้เวลากับอินเทอร์เน็ตมือถือเกิน 5 ชั่วโมงต่อวัน (ที่มา: DataReportal) การพัฒนาให้แพลตฟอร์มสามารถทำงานได้ดีบนมือถือจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก

อนาคตของสถานการณ์ดิจิทัลประเทศไทย

การจัดอันดับแบรนด์เทคโนโลยีของประเทศไทยเผยให้เห็นตลาดที่ยังคงถูกครอบงำโดยยักษ์ใหญ่ระดับโลก แต่มีพื้นที่สำหรับแพลตฟอร์ฒเฉพาะทางที่เข้าใจพฤติกรรมการใช้ดิจิทัลเฉพาะตัวของคนไทย เมื่อการเชื่อมต่อลึกซึ้งยิ่งขึ้นและการเข้าถึงสมาร์ทโฟนใกล้ถึงจุดอิ่มตัว เฟสต่อไปของการแข่งขันมีแนวโน้มที่จะมุ่งเน้นไปที่ความลึกของการมีส่วนร่วม (engagement depth) และการบูรณาการระบบธุรกิจ (ecosystem integration) มากกว่าการได้มาซึ่งผู้ใช้ใหม่

 

เกี่ยวกับบริษัท แบรนด์ นาว

Brandnow.asia เป็นตัวแทนด้านการสื่อสารแบรนด์และการประชาสัมพันธ์ที่ให้บริการกับสตาร์อัพ ยูนิคอร์น และบริษัทชั้นแนวหน้าระดับประเทศและภูมิภาค เราเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่าย PRN กับพันธมิตรที่ครอบคลุมทั่วโลก บริษัทของเราเน้น “การสื่อสารแบรนด์” ที่ให้บริการด้านการประชาสัมพันธ์ การตลาดทางตรงไปจนถึงการจัดงานหรือกิจกรรมต่างๆ ลูกค้า B2B ของเราคือ Grohe, Merck, Tealium และ Electrolux ส่วนลูกค้า B2C ของเราคือ Grab, Lalamove, adidas และ Ksher and Wechat Pay

สำหรับสื่อมวลชนสามารถติดต่อได้ที่

กิตติศักดิ์ ยิ่งใหญ่ โทร.091-797-8277

อีเมล [email protected]

 

บริษัท แบรนด์ นาว จำกัด โทร. 02 105 4217

อีเมล [email protected]

Brandnow.asia is an agency and consultancy serving startups in Thailand and Regional. We focus on strategy and brand communication with services of PR and marketing.