ยอดเข้าชม : 18
เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม Tech for Good Institute จัดเวทีสัมมนางาน “Digital Platforms for Public Benefits” เปิดเผยผลการวิจัยดิจิทัลแพลตฟอร์มจากสามประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเป็นเวทีสาธารณะจัดเสวนาผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับดิจิทัลแพลตฟอร์ม มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 50 คนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันวิจัย และภาควิชาการ ร่วมจัดโดยสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)
แพลตฟอร์มกับบทบาทในการเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจ
จากการวิจัยอย่างครอบคลุมและการปรึกษาหารือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายภาคส่วนในฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย รายงานฉบับนี้ได้สำรวจในประเด็นต่าง ๆ ว่าแพลตฟอร์มดิจิทัล ช่วยให้รัฐ “เข้าถึง” กลุ่มประชากรที่เข้าถึงได้ยาก แพลตฟอร์มกำลังสร้างข้อมูลแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับแรงงานนอกระบบ ธุรกิจขนาดย่อม และชุมชนที่ไม่มีบัญชีธนาคาร ซึ่งเคยเป็น “กลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ของรัฐได้” ด้านผู้กำหนดนโยบาย แพลตฟอร์มยังช่วยให้รัฐบาลสามารถออกแบบมาตรการสนับสนุนที่ยืดหยุ่นและเฉพาะกลุ่มได้ดียิ่งขึ้น
รายงานยังได้ระบุถึงหลายด้านสำคัญที่ความร่วมมือระหว่างแพลตฟอร์มกับรัฐบาลมีศักยภาพสูงในการปรับปรุงคุณภาพชีวิตและรายได้ของประชาชน ได้แก่
- การส่งต่อสวัสดิการทางสังคมและการรวมทางการเงิน (Social Program Delivery & Financial Inclusion): แพลตฟอร์มกระเป๋าเงินดิจิทัลและแพลตฟอร์มการชำระเงินกำลังอำนวยความสะดวกให้ประชาชนเข้าถึงบริการทางการเงินได้กว้างขึ้น และทำหน้าที่เป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพในการส่งต่อความช่วยเหลือทางสังคมหรือเงินช่วยเหลือฉุกเฉินไปยังผู้คนหลายล้านคนที่ไม่เคยได้รับการชำระเงินดิจิทัลมาก่อน
- บริการอิเล็กทรอนิกส์ของภาครัฐและการเข้าถึงระดับสุดท้าย (E-Government Services & Last-Mile Reach): เครือข่ายแพลตฟอร์มช่วยเสริมศักยภาพของรัฐบาลในการเข้าถึงชุมชนห่างไกลและแรงงานนอกระบบ ทำให้บริการภาครัฐเข้าถึงได้ผ่านสมาร์ตโฟนภายในไม่กี่นาที แทนที่จะต้องใช้เวลาหลายวัน
- การเข้าถึงตลาดและโอกาสทางเศรษฐกิจ (Market Access & Economic Opportunity): แพลตฟอร์มตลาดออนไลน์ช่วยเชื่อมโยงผู้ผลิตในพื้นที่ชนบทเข้ากับตลาดระดับประเทศ สนับสนุนการเติบโตของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (MSMEs) และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับกลุ่มประชากรที่เคยถูกจำกัดโอกาส
อนาคตของความร่วมมือระหว่างแพลตฟอร์มและรัฐบาล
รายงานฉบับนี้ได้เสนอแนวทางการกำกับดูแลแพลตฟอร์มดิจิทัล โดยมุ่งเน้นหลักคิด “ความเหมาะสมตามบริบท มีความยืดหยุ่นตามความเสี่ยง และมีลักษณะคล้าย “Sandbox” เพื่อให้แน่ใจว่านโยบายยังคงสอดคล้องกับภูมิทัศน์ดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของภูมิภาค แนวทางนี้จะเปิดโอกาสให้รัฐบาลได้ทดลองแนวทางแก้ปัญหาที่ใช้เทคโนโลยีแพลตฟอร์ม เรียนรู้จากผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว และเปิดพื้นที่ให้แพลตฟอร์มมีอิสระในการนำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาทดลอง
ซิตร้า ฮันดายานี นัสรุดดิน ผู้อำนวยการโครงการของ TFGI กล่าวว่า การกำกับดูแลแบบครอบคลุมมากขึ้นในยุคนี้เกี่ยวข้องกับความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ซึ่งผู้มีส่วนร่วมแต่ละฝ่ายนำจุดแข็งที่แตกต่างกันมาร่วมกัน หากออกแบบอย่างรอบคอบ ความร่วมมือในลักษณะนี้ไม่เพียงช่วยลดต้นทุนเท่านั้น แต่ยังขยายขอบเขตของสิ่งที่เป็นไปได้ เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนได้มากขึ้น
และเธอกล่าวเพิ่มเติมว่า “งานวิจัยนี้เป็นก้าวสำคัญในการสร้างความเข้าใจร่วมกันว่า หากใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลอย่างเหมาะสม มันสามารถกลายเป็นพลังสำคัญในการสร้างสังคมที่ครอบคลุมและมั่งคั่งมากขึ้นได้” ผู้อำนวยการโครงการ TFGI ระบุ
ดร. สลิลธร ทองมีนสุข นักวิชาการอาวุโส สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) กล่าวว่า แพลตฟอร์มดิจิทัลกำลังช่วยให้รัฐบาลเข้าถึงประชาชนที่อยู่นอกระบบบริการแบบดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงทางการเงิน การคุ้มครองทางสังคม หรือการมีส่วนร่วมในตลาด ตัวอย่างเช่น ในหลายประเทศ เรากำลังเห็นว่าแนวทางแก้ปัญหาผ่านแพลตฟอร์ม รวมถึงโมเดลอย่าง open banking สามารถขยายบริการไปยังกลุ่มที่สถาบันการเงินแบบดั้งเดิมเข้าไม่ถึงได้ แต่บทเรียนสำคัญที่ต้องมีความร่วมมือกันเป็นเรื่องของการออกแบบนโยบาย โมเดลที่ประสบความสำเร็จจำเป็นต้องมีกรอบการแบ่งปันข้อมูล มาตรการคุ้มครองประชาชน และกลไกการประสานงานระหว่างหน่วยงาน เพื่อให้แน่ใจว่านวัตกรรมจะสามารถกลายเป็นความเท่าเทียมในทางปฏิบัติได้จริง
เกี่ยวกับสถาบัน Tech for Good Institute
สถาบัน Tech for Good Institute (TFGI) เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร ก่อตั้งขึ้นในปี 2564 เพื่อส่งเสริมการสนทนาและการแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับวิธีที่เทคโนโลยีและเศรษฐกิจดิจิทัลสามารถนำมาใช้เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน เป็นธรรม และครอบคลุมทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้