พลิกพลังท้องถิ่นสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน อพท. ชู “STMS” บันไดทองเชื่อมไทยสู่มาตรฐานโลก

องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. กำลังขับเคลื่อนภารกิจสำคัญ ในการยกระดับศักยภาพการท่องเที่ยวของไทยให้ก้าวสู่ความเป็นสากลอย่างยั่งยืน ผ่านการส่งเสริมและพัฒนามาตรฐานการจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism Management Standard: STMS) ซึ่งถือเป็นหมุดหมายแห่งความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ เนื่องจากเป็นมาตรฐานฉบับแรกของประเทศไทย ที่ได้รับการรับรองว่าเทียบเท่ากับหลักเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวของสภาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก (Global Sustainable Tourism Council: GSTC) ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ อพท.ในการใช้มาตรฐานระดับโลกนี้ เป็นกลไกหลักในการบริหารจัดการการท่องเที่ยวในพื้นที่พิเศษ โดยมุ่งเป้าไปที่การเปลี่ยนผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ให้เป็นองค์กรจัดการด้านการท่องเที่ยว (Destination Management Organization: DMO) ต้นแบบ

 

รากฐาน 10 ปี แห่งความสำเร็จของ STMS

นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร ผู้อำนวยการ อพท. เผยถึงการเดินทางของมาตรฐาน STMS ที่ได้ดำเนินมาครบ 10 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 โดยเน้นย้ำว่า STMS ไม่ได้เป็นเพียงแค่รายการตรวจสอบ แต่เป็น “มาตรฐานที่สร้างความยั่งยืน” ซึ่งมอบกรอบการทำงานที่เป็นระบบและโปร่งใสให้แก่องค์กร DMO ในการบริหารจัดการพื้นที่และการท่องเที่ยว หลักการสำคัญคือการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้เติบโตอย่างสมดุล ควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน โดยตลอดทศวรรษที่ผ่านมา STMS ได้สร้างความเติบโตในลักษณะของการกระจายตัวอย่างน่าพอใจ โดยมีองค์กร DMO ผ่านเกณฑ์มาตรฐานแล้วรวมทั้งสิ้น 107 แห่ง ใน 22 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งการเติบโตนี้สะท้อนถึงการยอมรับและการนำไปปฏิบัติอย่างจริงจังในระดับท้องถิ่น

ในปี พ.ศ. 2568 นี้ ถือเป็นอีกก้าวที่สำคัญ เพราะมี อปท.ที่พัฒนากลายเป็นองค์กร DMO ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน STMS เพิ่มขึ้นอีก 11 แห่ง ซึ่งประกอบด้วย จ.เชียงราย 6 แห่ง ได้แก่ องค์การบริหารส่วนตำบลแม่กรณ์, องค์การบริหารส่วนตำบลทรายขาว, องค์การบริหารส่วนตำบลแม่ฟ้าหลวง, องค์การบริหารส่วนตำบลศรีถ้อย, องค์การบริหารส่วนตำบลโป่งผา และเทศบาลตำบลป่าตาล จ.เลย 2 แห่ง ได้แก่ องค์การบริหารส่วนตำบลภูกระดึง และองค์การบริหารส่วนตำบลศรีฐาน จ.สมุทรปราการ 1 แห่ง คือ องค์การบริหารส่วนตำบลบางยอ และ จ.ตราด 2 แห่ง ได้แก่ เทศบาลตำบลเกาะช้างใต้ และองค์การบริหารส่วนตำบลไม้รูด

การเพิ่มขึ้นของจำนวนองค์กรที่ผ่านเกณฑ์นี้ ถูกมองว่าเป็น “สัญญาณของการย่อตัวเพื่อพุ่งทะยาน” ของการเติบโตด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของไทย เนื่องจาก STMS ได้รับการออกแบบให้เป็นรากฐานที่มั่นคง ซึ่งจะช่วยย่นระยะเวลาให้ อปท.สามารถก้าวไปสู่การรับรองและรางวัลในระดับโลกได้ง่ายขึ้น อาทิ UNESCO Creative City Network (UCCN), PATA Gold Award หรือ UN Tourism Best Tourism Village โดยไม่ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ในทุกมาตรฐาน

 

“From Transaction to Transformation” พลิกเศรษฐกิจและสังคมสู่ความสุขมวลรวม

ในการปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “From Transaction to Transformation : พลิกพลังท้องถิ่นสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน” ในพิธีมอบประกาศนียบัตรรับรองมาตรฐานฯ ให้แก่องค์กร DMO จำนวน 11 แห่ง ที่จัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชัน กรุงเทพฯ นายศิริปกรณ์ได้ตอกย้ำถึงแนวคิดการพัฒนาที่ยึดหลัก “ประโยชน์ชุมชน บนแผนโครงสร้างพื้นฐาน สู่มาตรฐานสากล” โดยมองว่าความสำเร็จของ STMS ไม่ได้วัดเพียงแค่ปริมาณ แต่สร้างมูลค่ามหาศาลใน 2 มิติหลัก คือ เศรษฐกิจและสังคม

โดยในมิติเศรษฐกิจนั้น STMS สร้างกลไกที่ทำให้รายได้จากการท่องเที่ยว และถูกกระจายเข้าสู่ชุมชนอย่างชัดเจน โดยประมาณ 5-10% ของรายได้ จะถูกจัดเก็บไว้เพื่อใช้ในการบริหารจัดการ การพัฒนาความปลอดภัย และเป็นทุนการศึกษา ซึ่งถือเป็นการลงทุนกลับคืนสู่ท้องถิ่นโดยตรง ทว่า ในมิติสังคมซึ่งเป็นหัวใจที่แท้จริงของการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน อพท.เน้นหลักการสร้างความสมดุลระหว่างเจ้าของบ้าน (คนท้องถิ่น) กับผู้เยี่ยมเยือน (นักท่องเที่ยว) โดยมีตัวชี้วัดสำคัญคือรายได้ของชุมชนและดัชนีความสุข

ในหลายพื้นที่สะท้อนทัศนะสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันว่า “ขอความสุขก่อน เดี๋ยวเงินตามมาก็ได้” ซึ่งความสุขนี้มาจากการได้แสดงอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม การดูแลนักท่องเที่ยวเหมือนครอบครัว หรือการได้เห็นรอยยิ้มจากเมนูท้องถิ่น การจัดการที่ยั่งยืนจึงเป็นการสร้างแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพเพื่อนักท่องเที่ยวคุณภาพ และเป็นจุดเริ่มต้นของระบบการท่องเที่ยวที่เข้มแข็งและสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก

 

หัวใจหนึ่งดวงกับการบริหารจัดการที่แข็งแกร่ง

นายศิริปกรณ์ยังได้เปรียบเทียบการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเสมือน “หัวใจหนึ่งดวง” ที่ทำงานผ่าน 4 ห้องหลัก ได้แก่ สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคม และ “การบริหารจัดการ” ซึ่งห้องสุดท้ายนี้ถือเป็นหัวใจของหัวใจ เพราะเป็นกลไกสำคัญในการเชื่อมโยงภาครัฐ ภาคประชาชน และภาคเอกชนให้เดินไปในทิศทางเดียวกันอย่างมีเอกภาพ แม้ 3 มิติแรกจะมีศักยภาพ แต่หากขาดการบริหารจัดการที่ดี การพัฒนาจะมีความเสี่ยงที่จะเติบโตแบบ K-Shape กล่าวคือบางส่วนก้าวหน้า แต่บางส่วนอาจถดถอยและไม่บรรลุเป้าหมาย ดังนั้น Sustainable Tourism จะเกิดขึ้นได้จริงก็ต่อเมื่อมีการบริหารจัดการที่แข็งแรง และสามารถประสานทุกภาคส่วนเพื่อยกระดับมาตรฐานไทยสู่ระดับโลก ซึ่งมาตรฐาน STMS ได้เข้ามาตอบโจทย์ในส่วนนี้อย่างครบถ้วน

 

ทิศทางในอนาคต มุ่งสู่ระบบนิเวศการท่องเที่ยวที่เข้มแข็ง

ท้ายนี้ อพท.ประกาศเจตนารมณ์ที่จะมุ่งมั่นขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยในระยะต่อไปจะเดินหน้าพัฒนามาตรฐาน STMS ให้เท่าทันทิศทางการท่องเที่ยวของโลก และสนับสนุนให้ อปท.ในฐานะองค์กร  DMO นำมาตรฐานนี้ไปใช้เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในเชิงปฏิบัติอย่างแท้จริง เพราะ อพท.เชื่อว่าการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนคือรากฐานของเมืองที่มีคุณภาพ และ อพท.พร้อมที่จะทำงานเคียงข้างองค์กรท้องถิ่นทั่วประเทศ เพื่อสร้างระบบนิเวศการท่องเที่ยวที่เข้มแข็ง เป็นธรรม และยั่งยืน ซึ่งจะนำพาประเทศไทยก้าวสู่การเป็นจุดหมายปลายทางที่เติบโตอย่างมีคุณภาพและ “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ได้อย่างแท้จริง.