MSC ร่วมกับ IBM Thailand จัดสัมมนา “The Future of IBM Power” เปิดตัว IBM Power 11 อย่างเป็นทางการในประเทศไทย
MSC ร่วมกับ IBM Thailand จัดสัมมนา “The Future of IBM Power” เปิดตัว IBM Power 11 อย่างเป็นทางการในประเทศไทย
กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. 2568 : งานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมความงามระดับภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุด Cosmoprof CBE ASEAN Bangkok 2025 เตรียมกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ในระหว่างวันที่ 25–27 มิถุนายน 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ตอบรับกระแสความงามทั่วโลกหลั่งไหลสู่อาเซียน ด้วยจุดแข็งด้านวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคคุณภาพระดับโลก งานในปีนี้รวบรวมแบรนด์ความงามกว่า 2,000 แบรนด์จากผู้แสดงสินค้ากว่า 650 ราย พร้อมตอกย้ำบทบาทการเป็นเวทีสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมความงามอาเซียนสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนและแข่งขันได้ในระดับสากล
นายสรรชาย นุ่มบุญนำ ผู้จัดการทั่วไป อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทยมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการเป็นศูนย์กลางของตลาดความงามในอาเซียน ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยที่โดดเด่นถึง 11% ซึ่งอยู่ในอันดับต้นของภูมิภาคและเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้ตลาดความงามของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีมูลค่าสูงถึง 34,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปีที่ผ่านมา
“ประเทศไทยมีศักยภาพมากกว่าแค่ตลาดที่น่าสนใจ ทำเลที่ตั้งซึ่งเชื่อมต่อภูมิภาคได้สะดวก บวกกับโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก ทำให้เหมาะอย่างยิ่งในการเป็นเจ้าภาพจัดเวทีการค้าความงามระดับ B2B อย่าง Cosmoprof CBE ASEAN Bangkok 2025 ที่จะเชื่อมโยงผู้ประกอบการระดับโลก นักลงทุน ผู้นำเข้าแบรนด์ต่างประเทศ และผู้ซื้อรายสำคัญ เปิดโอกาสให้เกิดการพบปะแชร์เทรนด์ แลกเปลี่ยนความรู้ และเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ ๆ ซึ่งล้วนเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันอุตสาหกรรมความงามอาเซียนสู่ระดับโลก”
Cosmoprof CBE ASEAN เกิดจากความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่าง BolognaFiere, Informa Markets และ Shanghai Baiwen Exhibition Co., Ltd. พร้อมพันธมิตรในแวดวงอุตสาหกรรม โดยปี 2568 นี้เป็นครั้งที่ 4 ของการจัดงาน และคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานมากกว่า 17,000 รายจากกว่า 20 ประเทศ อาทิ ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลีใต้ อิตาลี สหรัฐอเมริกา ฯลฯ
งานในปีนี้จะนำเสนอเทรนด์ความงามระดับโลกที่ครอบคลุมทั้งซัพพลายเชน ตั้งแต่วัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกและธรรมชาติ อาหารเสริม บริการรับจ้างผลิต (OEM/ODM) บรรจุภัณฑ์ ฟินิชโปรดัก ไปจนถึงเทคโนโลยีการผลิตล้ำสมัย พร้อมโซนกิจกรรมเชิงประสบการณ์ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทั้งผู้ประกอบการไทยและต่างประเทศ โดยจะมีพาวิลเลียนระดับประเทศจากผู้นำอุตสาหกรรมความงามของโลก เช่น จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และอิตาลี พร้อมเวิร์กช็อปและการสัมมนาจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลก
นายจีอันปีร์โลร์ คาลโซลารี (Mr.Gianpiero Calzolari) ประธาน BolognaFiere กล่าวว่า “Cosmoprof CBE ASEAN เติบโตอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นงานอ้างอิงสำคัญของอุตสาหกรรมความงามในอาเซียนอย่างแท้จริง โดยช่วยเชื่อมโยงแบรนด์และซัพพลายเออร์ พร้อมขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาค ซึ่งปัจจุบันมาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย ต่างติดอันดับ 10 ประเทศแรกที่มีอัตราเติบโตสูงที่สุดในโลก ตามรายงานของ Euromonitor International เราจึงมุ่งมั่นที่จะลงทุนต่อเนื่องในภูมิภาคนี้ เพื่อสร้างทางเลือกและพันธมิตรใหม่ ๆ ให้แก่เครือข่ายผู้เล่นในอุตสาหกรรมระดับโลก”
ด้าน คุณหยิง ซาง ประธานกรรมการบริหาร CBE China Beauty Expo บริษัท Shanghai Baiwen Exhibitions Co., Ltd. เสริมว่า เราได้นำกลุ่มผู้แสดงสินค้าชาวจีนที่โดดเด่นมาร่วมงาน Cosmoprof CBE ASEAN Bangkok 2025 เพื่อจัดแสดงผลิตภัณฑ์ C-beauty คุณภาพสูงเคียงข้างนวัตกรรมจากอาเซียน ซึ่งจะจุดประกายเทรนด์ใหม่ ๆ และสร้างแรงบันดาลใจแก่ตลาดในภูมิภาค โดยเฉพาะผู้ซื้อจากตลาดที่มีความต้องการเฉพาะ เช่น จีน ที่จะได้พบโอกาสในการจับคู่ธุรกิจที่ทรงคุณค่า
ด้าน นางเกศมณี เลิศกิจจา นายกสมาคมผู้ผลิตเครื่องสำอางไทย เปิดเผยว่า ตลาดความงามในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2024 ที่ผ่านมา มีมูลค่าสูงถึง 34,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท และคาดว่าจะขยายตัวอย่างต่อเนื่องด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 16% ในระหว่างปี 2024–2028 จึงนับได้ว่าเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีอุตสาหกรรมความงามและเครื่องสำอางเติบโตเร็วที่สุดในโลก
ประเทศผู้นำด้านดีมานด์ในภูมิภาค ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ โดยมีแรงขับเคลื่อนจากผู้บริโภคในประเทศและนักท่องเที่ยว โดยเทรนด์ในอนาคตจะเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์เฉพาะเจาะจงตามสีผิวและสภาพอากาศของท้องถิ่น รวมถึงผลิตภัณฑ์แนวธรรมชาติ ออร์แกนิก ที่เติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 9.2% ตามกระแสความต้องการผลิตภัณฑ์แบบคลีน วีแกน ปลอดสารพิษ และไม่ทดลองในสัตว์ กลุ่มสินค้ามาแรงที่น่าจับตามอง ได้แก่ กลุ่มดูแลผู้ชาย (men’s grooming) ที่เริ่มมีพฤติกรรมการดูแลผิวและผมมากขึ้น รวมถึงกลุ่ม Silver Beauty สำหรับผู้สูงอายุ ที่มองหาผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอย อ่อนโยน และใช้งานง่าย
“เรามองว่าอีก 10 ปีข้างหน้า (2025–2035) อุตสาหกรรมความงามในภูมิภาคอาเซียนจะยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เน้นความยั่งยืน ธรรมชาติ และตอบโจทย์เฉพาะกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นผู้ชาย ผู้สูงวัย รวมถึงผู้ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม งาน CCA 2025 นี้ จึงเป็นโอกาสสำคัญของทั้งแบรนด์ท้องถิ่นและผู้ผลิต OEM/ODM ในไทย ที่สามารถนำจุดแข็งด้านวัตถุดิบ สมุนไพร และกระบวนการผลิตในราคาที่แข่งขันได้ ไปต่อยอดเพื่อส่งออกสู่ตลาดหลักทั่วโลก”
สำหรับผู้ประกอบการ โรงงาน ผู้ผลิตที่อยู่ในอุตสาหกรรมความงาม และผู้ที่สนใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ความงาม อย่าพลาดโอกาสสำคัญของธุรกิจคุณ ที่ Cosmoprof CBE ASEAN Bangkok 2025 ระหว่างวันที่ 25-27 มิถุนายน 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมและลงทะเบียนชมงานออนไลน์ได้ที่ www.cosmoprofcbeasean.com
MSC ร่วมกับ IBM Thailand จัดสัมมนา “The Future of IBM Power” เปิดตัว IBM Power 11 อย่างเป็นทางการในประเทศไทย
กลุ่ม ปตท. ชวนคุณสร้างรอยยิ้มให้เกษตรกรอย่างต่อเนื่อง ช่วยลดปัญหาผลผลิตล้นตลาด
สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (Thai IOD) จัดประชุมประจำปี National Director Conference 2025 ภายใต้หัวข้อ “Stronger Together through the World of Contradiction” หรือ “อยู่อย่างยั่งยืน...ในโลกอันย้อนแย้ง” ในวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เวลา 09.00 – 16.30 น. ณ ห้อง Chadra Ballroom โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ โดยมีกรรมการและผู้บริหารจากบริษัทชั้นนำเข้าร่วมงาน
อ.อ.ป. ร่วมบันทึกเทปถวายพระพรชัยมงคล “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง”
NORDE (นอร์จ) แบรนด์โปรตีนคุณภาพ ประกาศเดินหน้าบุกตลาดอาหารเสริมเพื่อสุขภาพอย่างเต็มที่ ตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกกลุ่มด้วยแนวคิด "สุขภาพที่ดีไม่จำเป็นต้องจ่ายแพง" พร้อมบุกตลาดหวังแตะยอดขาย 50 ล้านบาทในปี 68
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ดิจิทัล เปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตของคนในสังคมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในด้านการทำธุรกรรมทางการเงิน ซึ่งปัจจุบันการใช้เงินสด ถูกแทนที่ด้วยระบบชำระเงินผ่านแอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มดิจิทัลหลากรูปแบบ จากหลายค่ายผู้ให้บริการ ส่งผลให้แนวโน้ม “สังคมไร้เงินสด” (Cashless Society) เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงที่ไม่เพียงแต่เพิ่มความสะดวกและรวดเร็วในการใช้จ่าย แต่ยังตอบโจทย์ด้านความปลอดภัยและความโปร่งใสในการทำธุรกรรม และหนึ่งในผู้ให้บริการดังกล่าว ก็มีแอปพลิเคชัน ACU PAY ด้วย