ยอดเข้าชม : 21
กรุงเทพมหานคร, 18 มิถุนายน 2568 – ทีมวิศวกรสังคมจากคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ในนามทีม “ชำโสมโอมเพี้ยง” ได้แสดงศักยภาพอันน่าประทับใจ ในมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2568 (Thailand Research Expo 2025) ณ ห้อง World Ballroom ชั้น 23 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งการเข้าร่วมงานครั้งนี้เป็นการตอกย้ำบทบาทของมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณีในการเป็นสถาบันการศึกษาที่มุ่งเน้นการสร้างสรรค์นวัตกรรมและพัฒนาบุคลากรเพื่อรับใช้สังคม โดยทีม “ชำโสมโอมเพี้ยง” ได้จัดแสดงบูธและนำเสนอผลงานวิจัย “ยาหม่องสมุนไพรพื้นบ้าน หมู่บ้านชำโสม จังหวัดจันทบุรี” ซึ่งเป็นผลผลิตจากการประยุกต์องค์ความรู้ท้องถิ่น ผสมผสานกับการวิเคราะห์ศักยภาพชุมชนอย่างลึกซึ้ง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก
พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดและกล่าวชื่นชมโครงการ “จากรางวัลสู่แรงบันดาลใจ” ยกระดับวิศวกรสังคม พัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อชุมชนก้าวหน้า โดยเน้นย้ำถึงความร่วมมืออันเป็นเลิศระหว่างมหาวิทยาลัยราชภัฏ และ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ในการขับเคลื่อนการพัฒนาศักยภาพเยาวชนผ่านงานวิจัยและนวัตกรรม ซึ่งเป็นการส่งเสริมนิสิตนักศึกษาให้ได้ลงมือปฏิบัติจริงในพื้นที่ชุมชน สร้างเสริมทั้งความรู้ ความสามารถ และจิตสำนึกสาธารณะ สอดคล้องกับพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมุ่งเน้นให้ “คนไทยมีคุณธรรม มีงานทำ และเป็นกำลังสำคัญของชาติ”
ผลิตภัณฑ์ยาหม่องสมุนไพรพื้นบ้าน หมู่บ้านชำโสม จ.จันทบุรี ถือกำเนิดขึ้นจากความตั้งใจของทีมวิศวกรสังคมที่ได้ลงพื้นที่ศึกษาและค้นพบสมุนไพรพื้นบ้านที่มีศักยภาพจำนวนมาก จึงได้นำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ พร้อมทั้งให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการออกแบบบรรจุภัณฑ์และการตลาด เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในระยะยาว และได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากคนในท้องถิ่น ความสำเร็จครั้งนี้ไม่เพียงแต่สร้างประโยชน์ให้กับชุมชน แต่ยังสะท้อนถึงการทำงานที่เชื่อมโยงระหว่างมหาวิทยาลัยกับท้องถิ่นได้อย่างแท้จริง
ความสำเร็จของทีม “ชำโสมโอมเพี้ยง” นั้น เคยคว้ารางวัลชนะเลิศจากการแสดงผลงานชมรมของมหาวิทยาลัยมาแล้วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งแสดงถึงความโดดเด่นและความมุ่งมั่นของนักศึกษาและบุคลากรของมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ที่พร้อมเป็นแหล่งสร้างสรรค์องค์ความรู้ สร้างนวัตกรรม และนำไปสู่การพัฒนาท้องถิ่นที่ยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม