Bolt-Kantar survey shows platform work boosts financial stability and skill development among Thai drivers
93% of drivers report improved household financial stability; nearly one-third earn up to ฿40,000 per month
จากผลสำรวจครั้งแรกเกี่ยวกับทัศนคติของสาธารณชนต่อ “งานแพลตฟอร์ม” โดย Kantar Insight Thailand ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากโบลท์ (Bolt) ล่าสุดได้มีการเปิดเผย ผลสำรวจระลอกที่สองในระดับประเทศ
ซึ่งชี้ให้เห็นว่า “งานแพลตฟอร์ม” ไม่เพียงได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง แต่ยังเป็นแหล่งรายได้สำคัญที่ช่วยเสริมความมั่นคงทางการเงิน พัฒนาทักษะ และยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้ขับขี่ชาวไทยจำนวนมากทั่วประเทศ
จากข้อมูลการสำรวจ พบว่า 93% ของผู้ขับขี่ระบุว่างานแพลตฟอร์มช่วยเพิ่มความมั่นคงทางการเงินให้ครอบครัว และเปิดโอกาสให้พวกเขาบรรลุเป้าหมายในชีวิตอย่างเป็นรูปธรรม อาทิ
ผู้ขับขี่ส่วนใหญ่ทำงานเฉลี่ย 21-30 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยประมาณ 29% มีรายได้ระหว่าง 20,001-40,000 บาทต่อเดือน ซึ่งสูงกว่าค่าแรงเฉลี่ยของประเทศไทยในไตรมาส 4 ปี 2567 (15,738 บาท) ถึงราว 154% ตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพในการสร้างรายได้และความยืดหยุ่นที่ “งานแพลตฟอร์ม” มอบให้
“งานแพลตฟอร์มไม่ใช่เพียง ‘อาชีพ’ แต่มันคือเครื่องมือที่เปิดโอกาสให้ผู้คนมีอิสรภาพทางการเงินและพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองได้” นายณัฐดนย์ สุขศิริฐานันท์ ผู้จัดการทั่วไปประจำโบลท์ ประเทศไทย กล่าว “ผลสำรวจสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่าผู้ขับขี่กำลังสร้างชีวิตที่ดีกว่าให้กับตนเองและครอบครัว ผ่านการทำงานที่อิสระ ยืดหยุ่น และสอดคล้องกับวิถีชีวิตและความมุ่งมั่นของพวกเขา”
จากผลสำรวจครั้งก่อนของโบลท์และ Kantar พบว่า 97% ของผู้ขับขี่รู้สึกว่าได้รับการยอมรับจากสังคม ซึ่งเป็นการท้าทายภาพจำเดิม ๆ ว่า “งานแพลตฟอร์มเป็นงานสำหรับคนรุ่นใหม่หรือคนที่ไม่มีทักษะ” ผลสำรวจล่าสุดยังตอกย้ำการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยแสดงให้เห็นว่าผู้ขับขี่ไม่เพียงเห็นคุณค่าของความยืดหยุ่น แต่ยังได้รับพลังทั้งในเชิงอาชีพและการเงินด้วย
ผู้ขับขี่ให้เหตุผลตรงกันว่าสิ่งที่ทำให้พวกเขาเลือกทำงานบนแพลตฟอร์ม คือ “ความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิต”
ความสามารถในการ “เป็นเจ้านายของตัวเอง” และสร้างรายได้ตามเงื่อนไขของตัวเอง ยังคงเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ผู้คนเลือกทำงานรูปแบบนี้
นอกจากรายได้แล้ว ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นว่า “งานแพลตฟอร์ม” เป็นแหล่งพัฒนาทักษะอาชีพที่สำคัญ
“ผู้ขับขี่ในวันนี้คือผู้ประกอบการยุคดิจิทัล” นายณัฐดนย์ กล่าวเสริม “พวกเขากำลังเก็บเกี่ยวประสบการณ์จริงที่สามารถต่อยอดเป็นทักษะอาชีพที่หลากหลาย ตั้งแต่การบริหารเวลาและงบประมาณ ไปจนถึงการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า”
การเปิดเผยผลสำรวจในครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาสำคัญที่ประเทศไทยกำลังก้าวหน้าภายใต้นโยบาย เศรษฐกิจแพลตฟอร์มดิจิทัล (Digital Platform Economy) ซึ่งนำโดย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) ทั้งสองหน่วยงานมีบทบาทสำคัญในการผลักดันระบบนิเวศดิจิทัลที่เปิดกว้าง ส่งเสริมนวัตกรรม และสนับสนุนการแข่งขันอย่างเป็นธรรมเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจดิจิทัลไทย
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้กำหนดเป้าหมายระดับชาติเพื่อขยายโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เสริมสร้างทักษะความเข้าใจดิจิทัล (Digital Literacy) และส่งเสริมการมีส่วนร่วมอย่างทั่วถึงในเศรษฐกิจดิจิทัล ขณะเดียวกัน สพธอ. รับผิดชอบในการดำเนินงานตาม พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการกำกับดูแลบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล พ.ศ. 2565 ซึ่งมุ่งยกระดับความโปร่งใส การคุ้มครองผู้ใช้ และการดำเนินงานอย่างมีความรับผิดชอบของผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม
“งานบนแพลตฟอร์มได้กลายเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจไทย” นายณัฐดนย์ กล่าว “เมื่อทิศทางนโยบายแพลตฟอร์มดิจิทัลของไทยพัฒนาไปข้างหน้า กฎระเบียบควรมุ่งเน้นการสร้างพลังให้แรงงานกลุ่มนี้ ด้วยการสนับสนุนนวัตกรรม ความยืดหยุ่น และคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทยหลายแสนคนที่เลือกทำอาชีพนี้”
ในบริบทนี้ ผลสำรวจของ Kantar ถือเป็นข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่า ซึ่งจะช่วยสนับสนุน การกำหนดนโยบายโดยอ้างอิงข้อมูลจริง (Evidence-Based Policymaking) เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐเข้าใจถึงบทบาทของ “งานแพลตฟอร์ม” ต่อการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ การพัฒนาทักษะ และความมั่นคงของครัวเรือนไทยทั่วประเทศ
93% of drivers report improved household financial stability; nearly one-third earn up to ฿40,000 per month
เอสวีแอล กรุ๊ป โดยกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ เดินหน้ารุกงานขากลับ (Backhaul) เข้มข้น เล็งผลเลิศจาก 9 เดือนที่ผ่านมา ตอกย้ำการเป็นผู้นำการขนส่งครบวงจร ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า ย้ำอีก 3 เดือนข้างหน้ารุกตัวเลขงานขนส่งสินค้าขากลับขึ้นเป็น 90%
"โฮมโปร x เมกาโฮม" ทุ่ม 570 ล้าน ปักหมุดโมเดลไฮบริดสโตร์อนาคต "พุทธมณฑลสาย 4" ตอบเทรนด์ดีมานด์บ้าน-ช่าง-โรงงาน รุกโซนเศรษฐกิจฝั่งตะวันตก โตระยะยาว
บริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเข้าร่วมเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ ในฐานะ Gold Sponsor ของการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ
อ.อ.ป. ให้การต้อนรับผู้เชี่ยวชาญจากสวีเดน พร้อมเปิดบ้านให้ผู้เข้าร่วมโครงการ LoCoFoRest ของประเทศไทย ร่วม Workshop ก่อนลงพื้นที่ศึกษาดูงาน
ปตท. นำร่อง เป็นบริษัทในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งแรก ร่วมโครงการลงทุนของ เจ.พี. มอร์แกน สนับสนุนเทคโนโลยีการดักจับขยะพลาสติกในแม่น้ำ