MSC ลุยภารกิจรักษ์โลกกับโครงการ “Planet Roots รากฐานเพื่อโลก” ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมปลูกป่า ณ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบกบางปู
MSC ลุยภารกิจรักษ์โลกกับโครงการ "Planet Roots รากฐานเพื่อโลก" ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมปลูกป่า ณ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบกบางปู
กรุงเทพฯ – บริษัท อิตัลไทยอุตสาหกรรม จำกัด (Italthai Industrial: ITI) ผู้นำธุรกิจเครื่องจักรกลหนักของไทยกว่า 70 ปี เดินหน้ารุกตลาดงานถนน (Road Machinery) อย่างเต็มรูปแบบ ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ “Redline by Dynapac” (เรดไลน์ บาย ไดนาแพค) แบรนด์เครื่องจักรงานถนนมาตรฐานยุโรประดับโลก พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ 6 รุ่น ได้แก่ DRS120D, DRA90, DRA30, DRF25-70C, DRT140 และ DRS180D, DRS200D ที่ตอบโจทย์ตั้งแต่งานเตรียมพื้นผิว งานซ่อมบำรุง ไปจนถึงงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ สะท้อนความมุ่งมั่นร่วมกันระหว่าง Italthai Industrial และ Redline ในการยกระดับตลาดเครื่องจักรงานถนนของไทยให้เทียบเท่ามาตรฐานสากล

นายยุทธชัย จรณะจิตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิตัลไทยอุตสาหกรรม จำกัด หรือ ITI กล่าวว่า “การร่วมมือกับ Redline by Dynapac ถือเป็นก้าวสำคัญของอิตัลไทยอุตสาหกรรม ที่ให้บริการผลิตภัณฑ์ด้านงานถนนอย่างครบวงจร ซึ่งเราเห็นโอกาสจากความต้องการโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่เติบโตทั่วประเทศ และต้องการนำเสนอเครื่องจักรที่มีคุณภาพ ทนทาน คุ้มค่า และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอิตัลไทย ทั้งในด้านประสิทธิภาพและการใช้งานจริง”

การร่วมมือกันครั้งนี้ ITI ตั้งเป้ายอดขายเครื่องจักรงานถนนเพิ่ม 200% โดยกลุ่มเป้าหมายหลักยังคงเป็นลูกค้าเดิมที่ ITI มีฐานมายาวนานมาตลอด 70 ปี และขยายไปตลาดใหม่ในกลุ่มลูกค้าที่ต้องการเครื่องจักรสินค้าแบรนด์พรีเมียม แต่ราคาเอื้อมถึงได้ (Premium Economy Segment) อีกทั้งยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นด้านสินค้าและความไว้วางใจในการให้บริการลูกค้าด้วย Multi-brand integrated service

ด้าน นายเทียร์รี ลีเดอร์ ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท ไดนาแพค โรด อีควิปเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (Mr.Thierry Leder, Regional General Manager – APAC, Dynapac Thailand) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า Redline by Dynapac มีการออกแบบภายใต้มาตรฐานเดียวกับ Dynapac แบรนด์ยุโรป ซึ่งมีประสบการณ์มากกว่า 90 ปี ทั้งยังมีการปรับเปลี่ยนดีไซน์และฟังก์ชันให้เหมาะกับสภาพการใช้งานในภูมิภาคเอเชียเป็นพิเศษ โดดเด่นทั้งเรื่องความทนทาน ใช้งานง่าย และดูแลรักษาสะดวก ความร่วมมือครั้งนี้จึงช่วยเติมเต็มพอร์ตโฟลิโอของทั้ง Redline และ ITI อย่างชัดเจน ด้วยการส่งต่อเทคโนโลยีที่ช่วยลดต้นทุนในระยะยาว และตอบโจทย์กับผู้รับเหมาทุกขนาดในไทย

สำหรับผลิตภัณฑ์ทั้ง 6 รุ่นที่นำมาจัดจำหน่าย ได้รับการจัดวางให้ครอบคลุมการใช้งานครบทุกมิติของงานถนนอย่างแท้จริง ได้แก่

การเพิ่ม Redline by Dynapac เข้ามาในพอร์ตทำให้ ITI สามารถให้บริการแบบครบวงจร ตั้งแต่งานดิน งานขนส่ง ไปจนถึงงานถนนทุกประเภท พร้อมศูนย์บริการมาตรฐานทั่วประเทศและทีมช่างผู้เชี่ยวชาญ TopQ Service ที่พร้อมดูแลทุกขั้นตอน รวมถึงอะไหล่แท้มาตรฐานสากลที่พร้อมจัดส่งอย่างรวดเร็ว เพื่อรองรับงานจริงตลอด 365 วัน ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ลูกค้ากลุ่มงานถนนไว้วางใจแบรนด์ ITI มาโดยตลอด
MSC ลุยภารกิจรักษ์โลกกับโครงการ "Planet Roots รากฐานเพื่อโลก" ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมปลูกป่า ณ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบกบางปู
"ซูเลียน" เปิดตัว MASTER RCD ครั้งแรกของไทย ขับเคลื่อนธุรกิจควบคู่การให้ มอบงบสนับสนุน 1.75 ล้านบาท เสริมพลัง 5 หน่วยงาน พร้อมส่งต่อสิ่งดี ๆ สู่สังคมไทย
MSC ตอกย้ำความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืน ได้รับคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ระดับ AA ประจำปี 2568
เฮเฟเล่ #Comeback บนเวทีสถาปนิก'69 จับมือ "Jenchieh Hung + Kulthida Songkittipakdee / HAS design and research" พลิกโฉมมุมสินค้าเป็นสตูดิโองานดีไซน์ เตรียมสร้างประสบการณ์ที่ทุกคน #ไม่เคยเห็นมาก่อน
“โออิชิ อีทเทอเรียม” (OISHI EATERIUM) และ “แวนเทจ พอยท์” (VANTAGE POINT) ภายใต้กลุ่มธุรกิจอาหารในเครือไทยเบฟ โดย นายไพศาล อ่าวสถาพร ผู้อำนวยการอาวุโส ผู้บริหารสูงสุด สายธุรกิจอาหาร ประเทศไทย บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เข้าร่วมงานประกาศรางวัล HUNGRY HUB: RED TABLE AWARDS 2025 พร้อมรับมอบโล่รางวัลจาก นายสุรสิทธิ์ สัจจะเดว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร HUNGRY HUB โดย โออิชิ อีทเทอเรียม ได้รับรางวัลในสาขา BEST CHAIN RESTAURANT AWARDS ขณะที่ แวนเทจ พอยท์ คว้ารางวัล BEST BUFFET RESTAURANT AWARDS ซึ่งทั้งสองรางวัลล้วนสะท้อนถึงความมุ่งมั่น ความคิดสร้างสรรค์ และศักยภาพในการสร้างประสบการณ์การรับประทานอาหารและการบริการอันยอดเยี่ยมแก่ผู้บริโภค
กรุงเทพมหานคร – ท่ามกลางกระแสของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาใช้ระบบ อี วอลเล็ต (E-Wallet) เป็นช่องทางหลักในการจับจ่าย ไม่ว่าจะชำระค่าขนส่ง ร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต หรือช้อปออนไลน์ ความสะดวก รวดเร็ว และความคุ้มค่ากลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้ใช้ตัดสินใจเลือกแอปพลิเคชัน ส่งผลให้ตลาดอีวอลเล็ตไทยเติบโตอย่างต่อเนื่องและกลายเป็นสมรภูมิแข่งขันที่แต่ละค่ายต่างงัดกลยุทธ์ใหม่ ๆ มาดึงดูดผู้ใช้งาน ซึ่งหนึ่งในตัวเลือกนั้น ก็มีแอปพลิเคชัน ACU PAY ผู้เล่นที่เติบโตขึ้นอย่างโดดเด่น ด้วยจุดยืนชัดเจนว่าไม่ได้เป็นเพียงแอปจ่ายเงิน แต่พัฒนามาเพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ผู้คน ที่ตอบโจทย์คนไทยในยุคที่ทุกการใช้จ่ายต้องคุ้มค่าและมีประโยชน์มากที่สุด
น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
ข้าพระพุทธเจ้า ทีมงานเว็บไซต์ PRNewsPlus
PRNewsPlus