ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเปลี่ยนแปลงโลกและรูปแบบการดำเนินธุรกิจอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด เทคโนโลยีนี้ช่วยให้บริษัทต่าง ๆ ประหยัดเวลา ลดงานที่ซ้ำซ้อน และลดต้นทุนการผลิต ซึ่งถือเป็นโอกาสทองสำหรับ ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในการเพิ่มศักยภาพและขยายขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
AI, or Artificial Intelligence, is rapidly transforming the world and businesses faster than we could have imagined. It helps companies save time, reduce repetitive tasks, and lower production costs, presenting a golden opportunity for SMEs to enhance their capabilities and compete more effectively in the market. But on the other hand, will the massive investments by large corporations in AI widen the gap between small and large businesses even further?
Bangkok, Thailand – June 24, 2025 – In today’s high-pressure business environment, entrepreneurs are facing more than just competitive markets—they’re battling exhaustion, overwhelm, and emotional burnout. With 20.4% of businesses failing in their first year and over 65% within a decade (U.S. Bureau of Labor Statistics, 2024), it’s clear that ambition alone isn’t enough. Many founders are falling into growth traps—scaling too fast, building without a solid foundation, and losing themselves in the process. Alarmingly, 45% of entrepreneurs report symptoms of burnout, anxiety, or depression. Therefore, finding a sustainable way to succeed has become an absolute necessity.
Bangkok, Thailand – 24 มิถุนายน, 2025 – ในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เต็มไปด้วยแรงกดดันในปัจจุบัน ผู้ประกอบการไม่ได้เผชิญเพียงแค่ตลาดที่มีการแข่งขันสูงเท่านั้น แต่ยังต้องต่อสู้กับความเหนื่อยล้า ความรู้สึกเหมือนแบกรับภาระมากเกินไป และภาวะหมดไฟทางอารมณ์อีกด้วย จากข้อมูลของ U.S. Bureau of Labor Statistics (2024) ชี้ว่า 20.4% ของธุรกิจล้มเหลวในปีแรก และกว่า 65% ล้มเหลวภายในระยะเวลา 10 ปี ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าความทะเยอทะยานเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ ผู้ก่อตั้งจำนวนมากกำลังติดกับดักการเติบโต – การขยายธุรกิจเร็วเกินไป สร้างโดยปราศจากรากฐานที่มั่นคง และหมดตัวตนไปกับการทำงาน สิ่งที่น่าตกใจคือ 45% ของผู้ประกอบการรายงานว่ามีอาการของภาวะหมดไฟ, วิตกกังวล หรือภาวะซึมเศร้า ดังนั้นการค้นหาวิธีที่จะประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนจึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
