จังหวัดฟุกุชิมะใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศญี่ปุ่น สามารถเดินทางด้วยชินคันเซ็นมาจากโตเกียวได้ในเวลาเพียง 90 นาทีและเป็นที่รู้จักในฐานะประตูสู่ภูมิภาคโทโฮคุ โดยเฉพาะเมืองไอสึ วากามัตสึซึ่งเป็นเมืองยอดนิยมของนักท่องเที่ยว หากมาเที่ยวจังหวัดฟุกุชิมะ เมืองนี้คือเมืองที่ขาดไม่ได้ในทริปเที่ยวเลย 1 ปราสาทสึรุกะ

ช่วงเวลาอันอบอุ่นใจในไอสึ วากามัตสึ ท่ามกลางหิมะตกโปรยปราย พิกัดเที่ยวฤดูหนาวในเมืองไอสึ วากามัตสึ จังหวัดฟุกุชิมะ

 จังหวัดฟุกุชิมะใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศญี่ปุ่น สามารถเดินทางด้วยชินคันเซ็นมาจากโตเกียวได้ในเวลาเพียง 90 นาทีและเป็นที่รู้จักในฐานะประตูสู่ภูมิภาคโทโฮคุ โดยเฉพาะเมืองไอสึ วากามัตสึซึ่งเป็นเมืองยอดนิยมของนักท่องเที่ยว หากมาเที่ยวจังหวัดฟุกุชิมะ เมืองนี้คือเมืองที่ขาดไม่ได้ในทริปเที่ยวเลย

1. ปราสาทสึรุกะ


  ปราสาทสึรุกะ เป็นปราสาทเดียวในญี่ปุ่นที่ใช้หลังคากระเบื้องสีแดง ตัวปราสาทและพื้นที่รอบข้างได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ ในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนจะเห็นต้นไม้ที่มีใบเขียวขจี ในฤดูใบไม้ร่วงจะได้สีสันของใบไม้เปลี่ยนสี และในฤดูหนาวจะได้ชมปราสาทที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะ ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่ขาดไม่ได้ในทริปเที่ยวจังหวัดฟุกุชิมะของบริษัทนำเที่ยวเลยค่ะ

การเดินทาง: จากป้ายรถบัสหน้าสถานีไอสึ วากามัตสึ ให้ขึ้นรถบัส Haikarasan หรือ Akabe มาลงที่ป้าย Tsuruga jo San no Maruguchi

2. คฤหาสน์ซามูไรไอสึบูเคยาชิกิ

 คฤหาสน์ซามูไรไอสึบูเคยาชิกิ เป็นบ้านของอดีตซามูไรในยุคเอโดะ ภายในอาคารถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่น มาสัมผัสบรรยากาศที่ราวกับได้ย้อนเวลาไปในโลกของซามูไรเมืองไอสึกันค่ะ

การเดินทางขึ้นรถบัส Akabe มาลงที่ป้าย Aizu Bukeyashiki Mae

ช่วงเวลาพิเศษ:เทศกาลเทียนประดับภาพวาดยูคิโฮตารุ

เทียนประดับภาพวาดไอสึ คืองานฝีมือที่แสดงถึงสัญลักษณ์ของเมืองไอสึ มีทั้งลายดอกเบญจมาศ ดอกโบตั๋น และดอกบ๊วย ในอดีตเป็นที่นิยมมากในสังคมซามูไรญี่ปุ่น เทียนประดับภาพวาดไอสึแต่ละเล่มสร้างขึ้นอย่างประณีตด้วยฝีมือของช่างฝีมือ ถ้ามาในช่วงเทศกาล เราสามารถเดินชมเทียนวาดภาพอาอิซุได้ที่ปราสาทสึรุกะ คฤหาสน์ซามูไรไอสึบูเคยาชิกิ และสวนสมุนไพรโอยะคุเอ็น

สมุนไพรโอยะคุเอ็นคือโลกแห่ง “ความเงียบ” ในขณะที่ปราสาทสึรุกะจะนำเสนอโลกแห่ง “ความเคลื่อนไหว” ให้เราได้สัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างกัน โดยในปี 2568 เทศกาลจะจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 7 และวันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ เทศกาลเทียนประดับภาพวาดจะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ สถานที่สองแห่งนี้ซึ่งเป็นสิ่งล้ำค่าของคนเมืองไอสึค่ะ จะได้สัมผัสความงดงามของเปลวไฟที่ส่องแสงระยิบระยับได้อย่างเต็มที่เลย

3. ถนนสายนาโนะคะมาจิ

ในสมัยการปกครองแบบระบบศักดินา ถนนสายนาโนะคะมาจินอกจากจะเป็นประตูทางเข้าสู่ทิศตะวันตกของปราสาทแล้ว ยังเป็นถนนสายหลักที่เชื่อมไปสู่เมืองอื่นอีกห้าสายด้วย ในอดีตจึงมีโรงเตี๊ยมและร้านอาหารเรียงราย 

ปัจจุบันที่นี่ยังมีอาคารที่มีอายุมากกว่า 100 ปีให้เราได้เห็นและสัมผัสกับบรรยากาศวินเทจ มาสนุกไปกับการเดินเล่น แวะคาเฟ่ และร้านขายของที่ระลึกซึ่งยังคงกลิ่นอายแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมบนถนนสายนี้กันนะคะ

การเดินทาง: ขึ้นรถไฟสายทาดามิจากสถานีไอสึ วากามัตสึ และลงที่สถานีนาโนะคะมาจิ

พิกัดแนะนำบนถนนสายนาโนะคะมาจิ:พิพิธภัณฑ์แห่งความทรงจำยุคโชวะ 

พิพิธภัณฑ์แห่งความทรงจำยุคโชวะ ตั้งอยู่บนชั้นสองของร้านขายของวินเทจ “COTTON CLUB AIZU” ที่นี่จำลองบรรยากาศของยุคสมัยโชวะที่จะทำให้เราได้เห็นว่า “แม้จะอยู่ท่ามกลางความยากจน แต่ก็ยังมีจิตวิญญาณเต็มเปี่ยม” โดยสิ่งของที่จัดแสดงอย่างเฟอร์นิเจอร์และของใช้ต่างๆ เป็นของที่เคยใช้จริงในอดีต และสิ่งที่นำมาจัดแสดงก็จะเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลด้วย

ที่พักแนะนำ:โรงแรมฮิกาชิยามะออนเซ็น มุไคทาคิ

ฮิกาชิยามะออนเซ็น เป็นย่านออนเซ็นเก่าแก่ที่มีประวัติยาวนาน ตั้งอยู่ใจกลางเมืองไอสึ วากามัตสึ ส่วนโรงแรม “มุไคทาคิ”นั้นคือเรียวกังที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องได้ของประเทศญี่ปุ่น ในเรียวกังนี้ยังคงรักษาบรรยากาศแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมไว้ นอกจากนี้เรายังสามารถมองเห็นสวนญี่ปุ่นซึ่งอยู่ใจกลางท่ามกลางหิมะที่ตกโปรยปรายจากระเบียงได้ด้วย

การเดินทาง: นั่งรถบัส “Haikarasan” หรือ “Akabe” และลงที่ป้ายรถบัสสถานีฮิกาชิยามะออนเซ็น

บทความแนะนำพิกัดเที่ยวฤดูหนาว ณ เมืองไอสึ วากามัตสึจบลงเพียงเท่านี้ มาสัมผัสประสบการณ์ที่น่าจดจำจากวิวหิมะสวยๆ และสถาปัตยกรรมย้อนยุคท่ามกลางฤดูหนาวกันนะคะ

RNewsPlus ให้บริการฝากข่าวประชาสัมพันธ์ฟรี ช่วยเพิ่มการเข้าถึงธุรกิจและกิจกรรมของคุณ พร้อมบริการที่ง่ายและรวดเร็ว สมัครใช้งานฟรีวันนี้!