อ.อ.ป. ประกาศผลการตัดสินการประกวด “ตราสัญลักษณ์ (Logo) ครบรอบ 78 ปี”
อ.อ.ป. ประกาศผลการตัดสินการประกวด “ตราสัญลักษณ์ (Logo) ครบรอบ 78 ปี”
บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAGURO เผยความสำเร็จเกินคาด ผลประกอบการปี 2567 ทั้งรายได้รวมและ กำไรสุทธิเติบโตกว่า 33.3% มีกำไรสุทธิ 97 ล้านบาท เผยความสำเร็จในไตรมาส 4/2567 ที่ ยอดขายร้านเดิม (SSSG) ในทุกๆ แบรนด์ ทำได้ดีแม้เศรษฐกิจยังทรงตัว เคาะปันผล เดินหน้ารุกแผนตลาดกระตุ้นยอดขายต่อเนื่อง
นายจักรกฤติ สายสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAGURO เปิดเผยว่า การดำเนินงานของบริษัทฯ ปี 2567 มีผลการดำเนินการที่ดี มีรายได้รวม 1,378.2 ล้านบาท เติบโต 32 % จากรายได้รวม1,046 ล้านบาทในปี 2566 และมีกำไรสุทธิ 96.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 33.3% จากกำไรสุทธิ 72.5 ล้านบาทในปีก่อน นับว่าประสบความสำเร็จเกินเป้าหมายที่บริษัทฯ ตั้งไว้ โดยเฉพาะไตรมาส 4/2567 รายได้เติบโต 12.4% เป็น 399.6 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 34.3 ล้านบาท เติบโต 16.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา
ถึงแม้ว่าปี 2567จะเป็นปีที่ท้าทายเนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อการจับจ่ายของผู้บริโภค จึงทำให้มีการชะลอตัวของการเติบโตสำหรับแบรนด์ที่มีกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อในระดับกลางแต่ในภาพรวมบริษัทฯ ยังคงรักษาการเติบโตของรายได้และกำไรสุทธิ ด้วยการดำเนินแผนธุรกิจที่กระตุ้นยอดขายร้านเดิม (SSSG) สร้างยอดขายเพิ่มจากการขยายสาขา และเน้นการทำตลาดแบรนด์พรีเมียมที่เจาะกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อ ซึ่งสามารถทำกำไรสุทธิ (Margin) ได้สูงกว่า รวมถึงใช้กลยุทธ์การบริหารต้นทุน (Cost Control) อย่างมีประสิทธิภาพ
“ในปีนี้ 2568 บริษัทฯ มีแผนจะสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยยังคงตั้งเป้าหมายปี 2568 จะมีรายได้รวมเติบโต 30% จากปี 2567 ด้วยการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องและระมัดระวัง โดยบริษัทมีแผนจะเปิดร้านหมูทอด Tonkatsu Aoki เพิ่มอีก 4 สาขาในไตรมาส 1 และ 2 หลังจากสาขาแรกที่เซ็นทรัลเวิร์ล ประสบความสำเร็จอย่างสูงเกินความคาดหมาย และมีรายได้ต่อบิลล์ค่อนข้างสูง นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนจะเปิดร้านอาหารแบรนด์ใหม่เพิ่มอีก 2 แบรนด์ เพื่อขยายฐานรายได้ ขยายสู่เซ็กเม้นท์ใหม่ และเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด ขณะเดียวกันบริษัทฯ มีแผนจะเปิดสาขาเพิ่มสำหรับ ร้าน Maguro และ Hitori Shabu อย่างต่อเนื่องเพือรองรับลูกค้ากลุ่มพรีเมียมแมส โดยล่าสุดได้เปิดร้าน Hitori Shabu สาขาพระราม 9 ซึ่งได้รับการต้อนรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี และนอกจากเปิดร้านเพิ่ม บริษัทฯ ยังเน้นการตลาดที่มีความแปลกใหม่ การจัดโปรโมชันเมนูพิเศษทั้งในแง่ของวัตถุดิบใหม่ รสชาติใหม่ที่หลากหลาย และในแง่ของขนาด (portion size menu) และราคาที่หลากหลายรองรับทุกความต้องการของผู้บริโภค” นายจักรกฤติกล่าวเสริม
ปัจจุบัน MAGURO มีร้านอาหารในเครือรวมทั้งหมด 38 ร้านจาก 5 แบรนด์ ได้แก่
MAGURO ร้านอาหารญี่ปุ่น และซูชิระดับพรีเมียม 18 ร้าน เจาะกลุ่มเป้าหมายผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อ โดยในปี 2567 ร้านมากุโระมีรายได้รวม 777 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับปี 2566 คิดเป็นสัดส่วน57% ของรายได้บริษัทฯ
HITORI SHABU ร้านชาบูและสุกียากี้หม้อเดี่ยวสไตล์คันไซ 11 ร้าน และร้าน HITORI SUKIYAKI ร้านสุกียากี้คันไซแบบดั้งเดิม ในรูปแบบ Authentic Japanese Sukiyaki Course สาขาแรกที่เอกมัย 12 โดยในปี 2567 มีรายได้รวม 386 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 96 เมื่อเทียบกับปี 2566 คิดเป็นสัดส่วน 28% ของรายได้บริษัทฯ
SSAMTHING TOGETHER ร้านปิ้งย่างสไตล์เกาหลีวัตถุดิบพรีเมียม 6 ร้าน สำหรับผู้บริโภคหลากหลายกลุ่ม ทั้งนักศึกษา วัยทำงาน และครอบครัว ในราคาที่จับต้องได้ โดยในปี 2567 มีรายได้รวม 206 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับปี 2566 คิดเป็นสัดส่วน 15% ของรายได้บริษัทฯ
TONKATSU AOKI ร้านหมูทอด สาขาแรก ณ เซ็นทรัล เวิลด์ ชั้น 3 มีรายได้รวม 3 ล้านบาท และ CouCou ร้านอาหารรูปแบบ All-Day Dining สไตล์ตะวันตก สาขาแรกที่ The Flavorhood ประดิษฐ์มนูธรรม มีรายได้รวม 1 ล้านบาท ซึ่งเป็น 2 แบรนด์ใหม่ของบริษัทฯ โดยขยายฐานกลุ่มเป้าหมายผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อ
อ.อ.ป. ประกาศผลการตัดสินการประกวด “ตราสัญลักษณ์ (Logo) ครบรอบ 78 ปี”
เวทีเสวนา COSMOPROF CBE ASEAN "Building Iconic Beauty Brands: Strategy, Story, Success" ดึงกูรูนักการตลาด ผู้บริหาร และเจ้าของ แบรนด์ ร่วมเผยเคล็ดลับนำแบรนด์ไทยสู่ระดับสากล
Super Trader Republic หรือ SPTR ในเครือ บริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NEWS ประกาศส่งกองทัพ “โค้ช” ชื่อดังของสถาบัน ขึ้นถ่ายทอดความรู้-เทคนิคการลงทุนแบบไม่มีกั๊กบนเวทีงาน “มหกรรมการเงินกรุงเทพ ครั้งที่ 25” หรือ MONEY EXPO 2025 BANGKOK พร้อมตั้งบูธให้ความรู้ สามารถเยี่ยมชมได้ตลอดงาน ณ บูธเลขที่ P57
ปตท. ลงนามสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติส่วนเพิ่มแหล่งอาทิตย์เสริมความมั่นคงพลังงานไทย
เดือนนี้ถือเป็นเดือนแห่งการให้ความสำคัญกับสิทธิ ความเท่าเทียม และคุณภาพชีวิตของแรงงาน แต่เบื้องหลังแรงงานเหล่านี้ คือ แรงงานเด็กในวัยเรียนจำนวนมากที่ต้องหลุดออกจากระบบการศึกษา นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของวงจรที่นำไปสู่การหมดโอกาสและกลายเป็นแรงงานที่ขาดศักยภาพในอนาคต ด้วยเหตุนี้ เราควรหันมาตระหนักถึงความสำคัญ หากต้องการแรงงานที่มีคุณภาพในวันข้างหน้า เราควรเริ่มจากวันนี้ ด้วยการสร้างโอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียมให้กับเด็กทุกคน
อ.อ.ป. ร่วมประชุมภาคีป่าไม้แห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 20 (UNFF20)