บพข.ร่วมกับสถาบันสิ่งทอ เผยผลสำเร็จ 5 ผู้ประกอบการ SME สิ่งทอไทย
ยอดเข้าชม : 18
บพข. ร่วมกับ สถาบันสิ่งทอเผยผลสำเร็จ 5 ผู้ประกอบการสิ่งทอไทย ในโครงการพัฒนาผู้ประกอบการสิ่งทอด้วยนวัตกรรมความยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีด้านนาโน วัสดุ ชีวภาพ และอิเล็กทรอนิกส์ สู่อุตสาหกรรม S-Curve และ New S-Curve ปี 67
นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ ผู้ทรงคุณวุฒิแผนงาน Innovation Driven Enterprises (IDEs) หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เปิดเผยว่า หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) เป็นหน่วยงานที่มีภารกิจในการสนับสนุนทุนวิจัยเพื่อเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ โดยผลักดันให้เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศ ทำให้งานวิจัยสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงในเชิงพาณิชย์ ได้ร่วมกับ สถาบันพัฒนาอุตสาหรรมสิ่งทอ ดำเนิน “โครงการพัฒนาผู้ประกอบการสิ่งทอด้วยนวัตกรรมความยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีด้านนาโน วัสดุ ชีวภาพ และอิเล็กทรอนิกส์ สู่อุตสาหกรรม S-Curve และ New S-Curve” ปีงบประมาณ 2567 รวม 5 กิจการ โดยช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นสถานประกอบการที่มีศักยภาพในการเติบโตสู่การเป็นธุรกิจฐานนวัตกรรม ควบคู่ไปกับการพัฒนาสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ซึ่งเป็นคนกลางและเป็นกลไกบริหารงาน (Intermediary) และเชื่อมโยงผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน (IBDS) โดยมีเป้าหมายให้ประเทศไทยมีผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสิ่งทอที่มีฐานนวัตกรรมขนาดใหญ่ (IDEs) เพิ่มขึ้น มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด มีรายได้สูงขึ้นกว่าร้อยละ 20 ภายใน 3 ปี และเติบโตสู่การมีรายได้ 1,000 ล้านบาท ในอนาคต เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยไปสู่ความยั่งยืน
ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ กล่าวว่า สถาบันสิ่งทอ ได้รับบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเป้าหมายนี้ พร้อมวางแนวทางขับเคลื่อนผู้ประกอบการหรือ IDEs ประกอบไปด้วย 3 แนวทางคือ การหมุนเวียน (Circularity) การสร้างความยั่งยืน (Sustainability) และ การปรับตัวสู่ดิจิทัล (Digitalization) ผ่านการส่งเสริมนวัตกรรม ใน 4 มิติหลัก คือ 1.นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ (Product Innovation) 2.นวัตกรรมกระบวนการผลิต (Process Innovation) 3.นวัตกรรมการตลาด (Market Innovation) และ 4.นวัตกรรมองค์กร (Organization Innovation) โดยมุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการให้สามารถแข่งขันในระดับสากลด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง อาทิ นาโนเทคโนโลยี วัสดุชีวภาพ และเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมสิ่งทอไทยสู่อุตสาหกรรม S-Curve และ New S-Curve อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการวินิจฉัยธุรกิจโดยผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งผู้ประกอบการทั้ง 5 กิจการที่เข้าร่วมโครงการในปี 2567 ประกอบไปด้วย
1.บริษัท พาลาดิน เวิร์คแวร์ จำกัด : ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งทอที่มุ่งเน้นนวัตกรรม
มุ่งเน้นส่งเสริมนวัตกรรมกระบวนการผลิต (Process Innovation) ประยุกต์ใช้กราฟีน วัสดุแห่งอนาคต และประสบความสำเร็จในการพัฒนาน้ำหมึกกราฟีนที่มีคุณสมบัติพิเศษสำหรับการใช้งานทางการแพทย์ โดยร่วมมือกับพันธมิตรทางธรุกิจที่มีความเชี่ยวชาญ และได้ “พัฒนาต้นแบบผ้ารัดขา” (Leg Compression) ร่วมกับโรงพยาบาลศิริราช โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการใช้งานจริงกับผู้ป่วย
2.บริษัท โกลแฟ็บ จำกัด : ผู้ผลิตชุดป้องกันส่วนบุคคล โดยเฉพาะชุดดับเพลิงคุณภาพสูง เพื่อส่งเสริมความปลอดภัยให้กับบุคลากรในภาครัฐและภาคอุตสาหกรรม
-2-
มุ่งเน้นส่งเสริม นวัตกรรมการตลาด เน้นพัฒนาสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ควบคู่ไปกับ การส่งเสริมกระบวนการผลิต “พัฒนาชุดดับเพลิงคุณภาพสูงดีไซน์ใหม่” โดยมีการออกแบบ เน้นแถบสะท้อนแสงมากขึ้น น้ำหนักเบา และนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการออกแบบหลักสรีรศาสตร์ร่วมกับหลักการยศาสตร์ มีจุดป้องกันที่ทำจากวัสดุพิเศษและมีความนุ่มรองรับการกระแทกช่วงหัวเข่าและข้อศอก เพื่อให้ผู้สวมใส่รู้สึกสบายปฏิบัติงานได้นานขึ้น ส่งผลให้เกิดการยกระดับมาตรฐานการรับรองมาตรฐานสากลของผลิตภัณฑ์ มีการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนอื่น ๆ เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอของประเทศ
3.บริษัท ยูไนเต็ดเท็กซ์ไทล์มิลส์ จำกัด : ผู้ให้บริการฟอก-ย้อม เส้นด้าย ตกแต่งสำเร็จ ผ้าถ้กและผ้าทอ
มุ่งเน้นส่งเสริมครบทุกมิติ : ทั้ง นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ นวัตกรรมการตลาด นวัตกรรมองค์กร และที่สำคัญที่สุดคือ นวัตกรรมกระบวนการผลิต ภายใต้แนวทางการประกอบธุรกิจตามหลักความยั่งยืน (ESG) โดยมีเป้าหมาย “เป็นผู้นำเทคโนโลยีการย้อมที่ยั่งยืน” (Sustainable) ได้ 100 % ลดปริมาณคาร์บอนและของเสีย นำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์สิ่งทอต้นทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และได้การรับรองมาตรฐานสากล สร้างทางเลือกผลิตภัณฑ์ให้นักออกแบบต่อยอดสู่การสร้างสรรค์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์ความต้องการกลุ่มผู้บริโภครักษ์โลก ทั้งในประเทศและตลาดต่างประเทศ โดยผลสำเร็จผลิตภัณฑ์ผ้าจากโครงการฯ ส่วนหนึ่งได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์แฟชั่นในอังกฤษ นำปสร้างสรรค์คอลเลคชั่นใหม่เตรียมออกจำหน่ายในเร็ว ๆ นี้
4.บริษัท บีซีแอล 2002 จำกัด : ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสิ่งทอทุกชนิด และเจ้าของนวัตกรรม PERMA Materials for life ยกระดับสุขอนามัยด้วยนวัตกรรมที่ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย เชื้อราและเชื้อไวรัสได้มากกว่า 99 % ตลอดอายุการใช้งาน
มุ่งเน้นส่งเสริม : นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วม (Co-Branding Creation) กับแบรนด์ เสริมด้วยนวัตกรรมพัฒนาช่องทางการตลาด เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่และเติมเต็มด้วยระบบการขายดิจิทัล รวมทั้งสนับสนุนนวัตกรรมพัฒนาโครงสร้างองค์กรด้วยเทคโนโลยี
5.ห้างหุ้นส่วนจำกัดนิวย่งฮั้ว (ไทยแลนด์) : ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งทอแคบคุณภาพสูง ผลิตภัณฑ์ออกแบบมาเพื่อความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และสไตล์ที่เหนือกว่า เช่น เชือกรองเท้า สายรัด ริบบิ้น เป็นต้น
มุ่งเน้นส่งเสริมนวัตกรรมครบทุกมิติ มีการจัดทำระบบคุณภาพ ISO 9001:2015 พร้อมให้ความสำคัญกับความยั่งยืน จนสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าเพิ่มมากขึ้น จากเดิม 81% เป็น 93 % ใช้นวัตกรรมทำตลาดออนไลน์ขยายฐานลูกค้า พร้อมปรับบทบาทจากผู้ขาย ให้เป็นผู้ร่วมพัฒนานวัตกรรม (innovation partnership) มุ่งเน้นเข้าสู่องค์กรนวัตกรรม พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน สร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง และก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรม S-Curve และแข่งขันได้ในตลาดต่างประเทศ
จากการดำเนินโครงการดังกล่าว สามารถขับเคลื่อนให้ประเทศไทยมีผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสิ่งทอที่มีฐานนวัตกรรมขนาดใหญ่ (IDEs) เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ คือ เพิ่มยอดขายสินค้าของผู้ประกอบการไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 และสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์สิ่งทอที่เกิดจากการใช้นวัตกรรมไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 เกิดการจ้างแรงงานเพิ่มขึ้นในระบบ มูลค่าทางด้านสังคมผู้บริโภคได้ใช้นวัตกรรมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในราคาที่เหมาะสม เนื่องจากสามารถผลิตเองได้ภายในประเทศ สร้างมูลค่าเพิ่มทางด้านสิ่งแวดล้อม นวัตกรรม และเทคโนโลยี ที่นำมาใช้ในกระบวนการ จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การปนเปื้อนของสารพิษต่าง ๆ ลดการปล่อยของเสีย ลดการปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้น การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ตามนโยบายของประเทศ สอดคล้องกับทิศทางของโลก
หากผู้ประกอบการท่านใดสนใจเข้าร่วมโครงการฯในปี 2568 สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ www.thaitextile.org หรือ facebook : Thailand Textile Institute
———–