รำไพพรรณีผนึกกำลังผู้นำจันทบุรีและสภามหาวิทยาลัย ยกระดับมาตรฐานการศึกษา 2568
ผู้ว่าฯจันทบุรีร่วมทีมกรรมการสภาฯ ประเมินผลงาน มรภ.รำไพพรรณี ชูโมเดล "มหาวิทยาลัยเพื่อท้องถิ่น" เน้นสร้างบัณฑิตคุณภาพและนวัตกรรมชุมชนที่ยั่งยืน
ขณะนี้โรงเรียนส่วนใหญ่เริ่มปิดเทอมการศึกษา ก่อนที่จะเปิดภาคการศึกษาอีกครั้งในกลางเดือนพฤษภาคม แต่ก็มีนักเรียนจำนวนไม่น้อยที่ระหว่างปิดเทอมยังไม่แน่ใจกับอนาคตของตนเองว่าจะไปในทิศทางไหน จะมีโอกาสได้เรียนหนังสือในปีภาคการศึกษาใหม่ที่จะมาถึงหรือไม่ หรือถ้าหากได้เรียนในปีการศึกษาหน้าจะสามารถเรียนได้อย่างต่อเนื่องหรือไม่ เพราะติดปัญหาความไม่แน่นอนเรื่องสถานะของครอบครัวที่อาจจะทำให้ต้องออกจากระบบการศึกษาก็เป็นได้
แม้ว่าภาครัฐจะสนับสนุนงบประมาณบางส่วนให้นักเรียน แต่สำหรับนักเรียนที่ทางบ้านมีฐานะยากจนแล้ว ยังคงต้องประสบกับความยากลำบากแบกรับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าเดินทางไปโรงเรียน ค่าอุปกรณ์การเรียนเสริมเพิ่มเติม ค่าอาหารกลางวันสำหรับนักเรียนที่เรียนอยู่ระดับชั้นมัธยมศึกษา เป็นต้น ซึ่งเป็นอุปสรรคอย่างมาก และส่งผลให้ในแต่ละปีมีนักเรียนจำนวนมากต้องหลุดออกจากระบบการศึกษา
นายสรรเพชร นิลรัตน์ กรรมการผู้จัดการ มูลนิธิ EDF (มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา) เผยว่า “เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มูลนิธิ EDF ได้ประกาศรายชื่อนักเรียนที่ขาดแคลนซึ่งผ่านการคัดเลือกตรวจสอบคุณสมบัติเพื่อรับทุนการศึกษาในปีการศึกษาใหม่ 2568 ที่จะเริ่มเปิดเทอมช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2568 ทั้งในส่วนนักเรียนทุนใหม่ และนักเรียนทุนเดิมที่ได้รับทุนต่อเนื่อง โดยมีนักเรียนผ่านการคัดเลือกเพื่อรับทุนการศึกษาในปีการศึกษา ทั้งหมด 9,734 คน ซึ่งจนถึงปัจจุบันมูลนิธิสามารถระดมทุนการศึกษาได้แล้ว 5,198 ทุน แต่ยังมีนักเรียนด้อยโอกาสที่รอรับการสนับสนุนทุนการศึกษาอีก 4,536 ทุน แบ่งเป็นทุนการศึกษานักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่ยากจน 3,287 ทุนการศึกษานักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่เรียนดี 299 ทุน ทุนการศึกษานักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือ อาชีวศึกษา 483 ทุน ทุนการศึกษานักเรียนพิการเรียนร่วมในชั้นเรียนปรกติ 271 ทุน ทุนการศึกษาเด็กกำพร้า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 196 ทุน ทั้งนี้สำหรับนักเรียนที่ขาดแคลนและฐานะทางบ้านไม่เอื้ออำนวยแล้ว การได้รับโอกาสทางการศึกษาจากผู้ใหญ่ใจดีถือเป็นแสงสว่างที่สาดส่อง เป็นเสมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ เพื่อให้สามารถเอาชนะอุปสรรคที่อยู่ข้างหน้าด้วยการตั้งใจเรียนให้สมกับโอกาสที่ได้รับจากผู้ใหญ่ใจสักคน และในอนาคตอาจส่งมอบโอกาสให้นักเรียนที่ด้อยโอกาสและขาดแคลนในอนาคตต่อไป”
พัชราภรณ์ พาครุฑ หนึ่งในอดีตนักเรีนยทุนจากมูลมูลนิธิ EDF ซึ่งปัจุบันกำลังศึกษาด้านพยาบาลศาสตร์ ที่วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี พุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลก คือตัวอย่างนักเรียนที่สามารถเอาชนะอุปสรรคความยากจนเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตและอนาคตของตนเองด้วยการตั้งใจเรียน โดยมีจุดเริ่มต้นจากเมื่อช่วงปลายปี พ.ศ.2558 ซึ่งขณะนั้นพัชราภรณ์ที่ฐานะทางบ้านยากจนกำลังเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดน้ำพริก จังหวัดพิษณุโลก มีผลการเรียนยอดเยี่ยมด้วยเกรดเฉลี่ย 4.0 และด้วยความห่วงใยในอนาคตของลูกศิษย์ ครูโรงเรียนวัดน้ำพริก ได้ติดต่อมูลนิธิ EDF เพื่อขอรับทุนการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้นักเรียนของตนแอง ซึ่งทุนการศึกษาที่ได้รับได้ช่วยให้พัชรภรณ์มุ่งมั่นตั้งใจเรียนพร้อมทั้งยังได้รับคำแนะนำดี ๆ ทั้งในเรื่องการเรียนและการใช้ชีวิตจากผู้อุปการะทุนการศึกษาจนสามารถเข้าเรียนต่อและสานฝันเป็นพยาบาล โดยจะสำเร็จการศึกษาด้านพยาบาลศาสตร์ในปีการศึกษา 2568 นี้ เพื่อก้าวไปสู่เส้นทางของผู้ให้เพื่อช่วยเหลือสังคมต่อไป
มูลนิธิ EDF ขอเชิญผู้ใหญ่ใจดีที่ต้องการเห็นเยาวชนของชาติได้มีอนาคตที่สดใส มีสมาธิในการเรียน สามารถพึ่งพาตนเองได้ในอนาคต ได้ร่วมสนับสนุนทุนการศึกษาให้นักเรียนที่ยากจน นักเรียนที่เรียนดีได้มีโอกาสเรียนหนังสือ และสานฝันเพื่ออนาคตของเด็ก ๆ เหล่านั้นได้โดยสแกนคิวอาร์โค้ดผ่านระบบ E-Donation ทางเว็บไซต์ www.edfthai.org หรือโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารมูลนิธิ ชื่อบัญชี “มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา (มูลนิธิ EDF) ธนาคารกรุงเทพ สาขาบางเขน เลขที่บัญชี 161-4-56698-0 ธนาคารกสิกรไทย สาขาบางเขน เลขที่บัญชี 070-2-45369-0 ธนาคารกรุงไทย สาขาพหลโยธิน 40 เลขที่บัญชี 980-7-59891-5 ธนาคารไทยพาณิชย์สาขางามวงศ์วาน เลขที่บัญชี 319-2-77744-8 และธนาคารทีทีบี สาขามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เลขที่บัญชี 069-2-41110-1 หลังจากนั้นสามารถติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์มูลนิธิเพื่อขอใบเสร็จรับเงินในการนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามกฎหมาย หรือหากต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อโทรศัพท์ 02 579 9209-11 (วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 09.00-16.30 น.) อีเมล [email protected] หรือ LINE @edfthai
อนึ่งสำหรับมูลนิธิ EDF เป็นองค์กรสาธารณกุศลลำดับที่ 255 ของประเทศไทย ที่มุ่งมั่นดำเนินงานเพื่อมอบโอกาสให้นักเรียนที่ขาดแคลนให้ได้รับการศึกษามาตั้งแต่ปี พ.ศ.2530 รวมถึงร่วมกับองค์กรต่าง ๆ ดำเนินโครงการซีเอสอาร์จนเป็นที่ยอมรับจากทั้งในและต่างประเทศและได้รับรางวัล เช่น ประกาศนียบัตรรับรอง CAF International Vetted Organization จาก CAF International ที่มอบให้องค์กรสาธารณกุศลทั่วโลกที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานการดำเนินงานครอบคลุมหลักธรรมาภิบาล จดทะเบียนถูกต้อง รายงานการเงินประจำปีมีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ รวมทั้งเงินบริจาคและเงินสนับสนุนที่ส่งมอบให้มูลนิธิได้รับการนำไปใช้อย่างถูกต้องตรงตามวัตถุประสงค์เพื่อสาธารณกุศลอย่างแท้จริง รางวัลยอดเยี่ยมองค์กรพัฒนาเอกชนแห่งประเทศไทยประเภทองค์กรขนาดใหญ่ (Thailand NGO Award) จากมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ สถาบันคีนันแห่งเอเชีย และ เดอะ รีซอร์ส อัลลิอันซ์ และรางวัลประกาศนียบัตรองค์กรสาธารณกุศลระดับ 5 ดาว (5-Star Charity Ratings) จากการดำเนินงานและบริหารงานด้วยหลักธรรมาภิบาล มีประสิทธิภาพทางการเงิน และมีความโปร่งใส จากสมาคมกิฟวิ่ง แบค เป็นต้น
