สคส. ชี้แจงกรณีอ้างอิงประกาศของ สคส. ที่หมดอายุแล้ว
สคส. ชี้แจงกรณีอ้างอิงประกาศของ สคส. ที่หมดอายุแล้ว จะไม่สามารถนำไปใช้ในการแสดงสิทธิ ความร่วมมือ หรือรับรองคุณสมบัติใด ๆ ได้อีก
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) ย้ำ พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า “พ.ร.ก.ไซเบอร์” ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว และมีผลบังคับใช้ในวันที่ 13 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในมาตรา 11/2 ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการปกป้องข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากมีการซื้อขายข้อมูลมีโทษหนักขึ้นถึงจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) เปิดเผยว่า “พ.ร.ก.ไซเบอร์” ฉบับนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับการจัดการกับปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ตั้งแต่ต้นทางโดยการป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลถูกนำไปใช้ในการกระทำผิดทางอาญา โดยเฉพาะ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” และมิจฉาชีพออนไลน์ที่ระบาดหนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนจำนวนมาก
พ.ร.ก. ฉบับนี้ โดยเฉพาะในมาตรา 11/2 มีความสำคัญอย่างยิ่งในการปกป้องข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลและข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมไปแล้ว โดยกำหนดบทลงโทษแก่ผู้ที่นำข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลและของผู้ถึงแก่กรรมไปใช้หรือให้บุคคลอื่นใช้ เพื่อกระทำความผิดทางอาญาหรืออาชญากรรมทางเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นการใช้โดยตรงหรือโดยอ้อม โดยผู้กระทำผิดอาจได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากมีการซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลดังกล่าวโดยเจตนาไม่ชอบด้วยกฎหมาย จะมีโทษหนักขึ้นถึงจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
กฎหมายดังกล่าวสอดคล้องและเสริมความแข็งแกร่งกับ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (PDPA) ซึ่งมีเป้าหมายในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนจากการถูกนำไปใช้โดยไม่ได้รับความยินยอมผิดวัตถุประสงค์ หรือการนำไปใช้ในทางทุจริต
สคส. ขอย้ำว่า ประชาชนควรตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ควรเปิดเผยข้อมูลสำคัญให้กับบุคคลที่ไม่รู้จัก และหากสงสัยว่าข้อมูลของตนเองอาจถูกละเมิดหรือถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด ควรแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที โดยทั้งนี้ สคส. ได้ยกระดับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง โดยจัดให้มีศูนย์เฝ้าระวังการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล (PDPC Eagle Eye) เพื่อสำรวจตรวจสอบข้อมูลรั่วไหลหรือการละเมิดข้อมูลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ร่วมกับตำรวจไซเบอร์ ซึ่งมีศูนย์ Cyber Eye ตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อพบการกระทำผิดก็พร้อมที่จะร่วมกันขยายผลบังคับใช้กฎหมายโดยทันที นอกจากนี้ยังร่วมมือกับหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมไซเบอร์
หากประชาชนพบเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล สามารถติดต่อได้ที่ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) โทร. 02-111-8800 หรืออีเมล [email protected]
สคส. ชี้แจงกรณีอ้างอิงประกาศของ สคส. ที่หมดอายุแล้ว จะไม่สามารถนำไปใช้ในการแสดงสิทธิ ความร่วมมือ หรือรับรองคุณสมบัติใด ๆ ได้อีก
บริษัท ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริจาคถังดับเพลิงให้กับบ้านพักเด็กและครอบครัว จังหวัดสุพรรณบุรี
ซูเลียน เปิดตัวห้างหุ้นส่วนจำกัด พหุธน บุรีรัมย์ เอเจนซี่ (BRF) ศูนย์รวมพลังนักธุรกิจเครือข่ายสายเลือดใหม่ ให้กลายเป็นศูนย์กลางการขับเคลื่อนเครือข่ายธุรกิจ ซูเลียนแห่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นายทรงพล ผาสุข กรรมการบริหาร บริษัท ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มอบรางวัลชนะเลิศ การประกวดคำขวัญความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ประจำปี 2568 ผู้ชนะเลิศ เจ้าของคำขวัญ “สภาพแวดล้อมดี มีชัย CAK ใส่ใจ ความปลอดภัยในการทำงาน” ได้แก่น.ส.สิริลักษณ์ ยังเจริญ เจ้าหน้าที่แผนกบัญชีฯ
กรมป่าไม้ มอบเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ "รักษ์ป่า รักแผ่นดิน" ให้แก่ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) ที่มาให้ความรู้ด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในโครงการฝึกอบรมหลักสูตรความรู้ด้านระเบียบ กฎหมาย เพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน แก่เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้
ขอเชิญเข้าร่วมการประกวดรางวัลเทคโนโลยีด้านเครื่องจักร และอุปกรณ์ ประจำปี 2568 รางวัลแห่งเกียรติยศของผู้ประกอบการไทย ชิงโล่รางวัลจากรัฐมนตรืว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พร้อมรับสิทธิสมาชิกของสมาคมฟรี 1 ปี และสิทธิ์ประโยชน์อื่นๆ สนใจสมัครสามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ QR CODE หมดเขตวันที่ 30 มิถุนายน 2568