STGT คว้า 3 รางวัลทรงเกียรติระดับประเทศ ในงาน TSCN Business Partner Conference 2025
STGT คว้า 3 รางวัลทรงเกียรติระดับประเทศ ในงาน TSCN Business Partner Conference 2025 และ ThaiBev Business Partner Award Ceremony 2025
นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA ผู้นำธุรกิจยางธรรมชาติครบวงจรรายใหญ่ของโลก และผู้ผลิตถุงมือยางอันดับหนึ่งของประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และได้ประกาศเจตนารมณ์ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ทำให้ในปี 2567 บริษัทฯ สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 13.59% เมื่อเทียบกับปี 2564 เป็นปีฐาน ผ่านกลยุทธ์ “เพิ่ม-เปลี่ยน-เก็บ” ได้แก่ 1) เพิ่ม – ปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานและปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานเพื่อเพิ่มผลิตภาพ 2) เปลี่ยน – มาใช้เทคโนโลยีคาร์บอนต่ำและการใช้พลังงานทดแทนให้มากขึ้น และ 3) เก็บ – คาร์บอนทั้งจากสวนยาง การปลูกป่า และการใช้เทคโนโลยีการดักจับและการจัดเก็บคาร์บอนในกระบวนการผลิต โดยมีแผนปฏิบัติการที่สำคัญ อาทิ การเปลี่ยนรถโฟล์คลิฟท์จากน้ำมันเป็นระบบไฟฟ้า (EV Forklift) และการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นต้น
สำหรับปี 2568 บริษัทฯ มุ่งมั่นยกระดับเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมจากปีก่อน ผ่านโครงการสำคัญ อาทิ 1) เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานสะอาดด้วยการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ โดยบริษัทฯวางแผนติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพิ่มเติมในปี 2568 เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าอีก 20.6 เมกะวัตต์ (MW) จากปัจจุบันที่มีการติดตั้งในโรงงาน 8 แห่ง อาทิ มุกดาหาร ทุ่งสง (นครศรีธรรมราช) และห้วยนาง (ตรัง) รวมกำลังการผลิตไฟฟ้าประมาณ 40.6 MW การขยายโครงการดังกล่าวจะช่วยลดการใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงานของบริษัทให้สูงขึ้น 2) ปรับปรุงกระบวนการผลิต ลดการใช้พลังงาน โดยมุ่งเน้นการปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสีย เปลี่ยนระบบเครื่องเติมอากาศ ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้กว่า 35% ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและช่วยให้บริษัทสามารถบริหารจัดการทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่ายิ่งขึ้น และ 3) ส่งเสริมการใช้พาหนะไฟฟ้าลดมลพิษทางอากาศ รวมทั้งลดการปล่อยคาร์บอนในภาคขนส่ง โดยเพิ่มจำนวนรถโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้า (EV Forklift) และขยายการติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) ในโรงงานต่างๆ ของกลุ่มบริษัทฯ เพื่อสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด ลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และมีส่วนช่วยลดฝุ่นละออง PM 2.5 ซึ่งเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
“จากโครงการที่ได้ดำเนินการไปแล้วและโครงการใหม่ที่จะทยอยดำเนินการในปี 2568 ตอกย้ำการเป็น The Green Rubber Company หรือ องค์กรแห่งยางสีเขียวแบบครบวงจรอย่างยั่งยืน มุ่งมั่นก้าวสู่การเป็น Carbon Neutral Company หรือบริษัทที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2573 และมุ่งสู่ Net Zero หรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 ซึ่งไม่เพียงช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มบริษัทศรีตรังในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมยางธรรมชาติแต่ยังเป็นการตอบสนองต่อแนวโน้มของตลาดโลกที่ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของบริษัทในระยะยาว” นายวีรสิทธิ์ กล่าว
STGT คว้า 3 รางวัลทรงเกียรติระดับประเทศ ในงาน TSCN Business Partner Conference 2025 และ ThaiBev Business Partner Award Ceremony 2025
STGT ชูแนวคิด Waste to Value สร้างคุณค่าทางสังคมและเศรษฐกิจ ภายใต้งาน “พัฒนาองค์กร ก้าวสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืน” ปีที่ 4
อ.อ.ป. จัดพิธีน้อมรำลึก เนื่องในวันนวมินทรมหาราช 13 ตุลาคม 2568
บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT นำโดยคณะผู้บริหารระดับสูง พร้อมด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ให้การต้อนรับคณะทูตจาก 21 ประเทศในยุโรปและเอเชีย ที่ได้ให้เกียรติเข้าเยี่ยมชมโรงงาน บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) สาขาอันวาร์ และพื้นที่สวนยางพาราของกลุ่มบริษัทศรีตรัง เพื่อศึกษาดูงาน เสริมสร้างความมั่นใจ เปิดมุมมองศักยภาพและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย
เมื่อเร็วๆนี้ บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) สาขาตรัง เป็นหนึ่งในองค์กรที่ได้รับการรับรองการเป็น “องค์กรผู้นำด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจก (Climate Action Leading Organization: CALO)”
Amid economic uncertainty caused by the U.S. government shutdown, Pink Elephant Thai & Asian Fusion, a Thai restaurant in Richmond, is transforming the crisis into a strategic opportunity. By shifting toward To-Go, Delivery, and Ghost Kitchen models, the brand is aligning itself with evolving American consumer behavior while showcasing the resilience of Thai cuisine as a global Soft Power force. From Dine-In to To-Go: A Shift in Consumer Behavior According to the National Restaurant Association (2024), over 68% of Americans order To-Go or Delivery at least twice a week, particularly during periods of financial caution when consumers seek value over formality. In response, Pink Elephant has focused on Meal Boxes, To-Go, and Delivery services via DoorDash, Uber Eats, and Grubhub, enabling the brand to reduce front-of-house costs while expanding its market reach significantly.