ดีพร้อม โชว์ผลสำเร็จ ส่งเสริมบุคลากรสาขาหัตถอุตสาหกรรมไทย“ให้ทักษะ” เพิ่มศักยภาพ งานฝีมือ พร้อมเชื่อมโยงโอกาส “ให้ธุรกิจไทยที่ดีคู่ชุมชน” เพิ่มการกระจายรายได้สู่ชุมชน หนุนบุคลากรและงานหัตถกรรมไทยสู่เวทีโลก

กรุงเทพฯ 23 กันยายน 2568กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) โชว์ผลสำเร็จ
การพัฒนาบุคลากรหัตถอุตสาหกรรมไทย จำนวน 111 ราย หนุนให้ทักษะ เพิ่มศักยภาพงานฝีมือสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ไทย ดึัตลักษณ์ไทยเฟ้นหาบุคลากรสาขาหัตถกรรมไทยในพื้นที่ พร้อมเชื่อมโยงโอกาส “ให้ธุรกิจไทยที่ดีคู่ชุมชน” เพิ่มการกระจายรายได้สู่ชุมชน หนุนบุคลากรหัตถกรรมไทยสู่เวทีโลก

นายสุรพล ปลื้มใจ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า การผลักดันอุตสาหกรรมสร้างสรรค์
เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนบุคลากรและงานหัตถอุตสาหกรรมไทย ให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก โดมุ่งเน้นการปรับใช้ภูมิปัญญาพื้นบ้านพร้อมยกระดับศักยภาพบุคลากรและงานหัตถกรรมไทย ให้มีทักษะและองค์ความรู้ ครอบคลุมงานหัตถกรรมฝีมือ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงทักษะฝีมือแห่งมรดกภูมิปัญญาไทย ตั้งแต่ต้นกำเนิดจนถึงการประยุกต์ใช้ในปัจจุบัน เพื่อตอบรับกระแสตลาดโลก งานหัตถกรรมไทยที่สะท้อนถึงความร่วมมือของคนในชุมชน สร้างสรรค์ออกมาเป็นงานหัตถกรรมอย่างสร้างสรรค์บนพื้นฐานของความยั่งยืน ผ่านบุคลากรหัตถอุตสาหกรรมไทยที่มีดีไซน์ผสานนวัตกรรม
ให้เข้ากับยุคสมัยที่มีการเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
หรือดีพร้อม (DIPROM) ภายใต้นโยบาย ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา ด้วยกลยุทธ์
ให้ทักษะใหม่ ที่เน้นการเพิ่ และสร้างทักษะใหม่ที่จำเป็นต่อการทำงานในสาขาหัตถอุตสาหกรรมไทยผ่าน กิจกรรมการพัฒนาบุคลากรหัตถอุตสาหกรรมไทย ภายใต้โครงการพัฒนาและเชื่อมโยงเครือข่ายบุคลากรหัตถอุตสาหกรรมไทย(Fashion Alliance) โดยการพัฒนาบุคลากรและต่อยอดองค์ความรู้ด้วยการให้ทักษะด้านฝีมือ ความคิดสร้างสรรค์ กระบวนการผลิตงานหัตถกรรมที่จำเป็นในการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์หัตถกรรมไทย รวมถึงความรู้ที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจยุคใหมเน้นการสร้างภาพลักษณ์ที่โดดเด่นให้กับหัตถกรรมไทย ตลอดจนการสร้างโอกาสและขยายช่องทางการตลาดไปสู่ตลาดโลกอันจะเป็นการผลักดันบุคลากรและงานหัตถกรรมไทยให้เป็นศูนย์กลางงานศิลปหัตถกรรมระดับโลก

สำหรับกิจกรรมการพัฒนาบุคลากรหัตถอุตสาหกรรมไทยนี้ ได้มุ่งพัฒนาศักยภาพนักออกแบบและผู้ประกอบการหัตถอุตสาหกรรมไทยอย่างรอบด้าน มุ่งเน้นพัฒนาทักษะ บุคลากร นักออกแบบ หรือผู้ประกอบการด้านหัตถอุตสาหกรรมหรืองานที่เกี่ยวข้องครอบคลุมสาขางานผ้าพื้นเมือง งานปัก เครื่องหนัง เซรามิก เครื่องจักสาน
และอื่น ๆ ด้วยกลยุทธ์ เสริมทักษะเก่าให้ทักษะใหม่ เติมศักยภาพพัฒนาผู้ประกอบการไทยครอบคลุมทุกมิติ
จำนวน 111 รายไม่ว่าจะเป็การออกแบบการตลาด การพัฒนาธุรกิจ และสร้างสรรค์นวัตกรรมผ่านกิจกรรมอบรมถ่ายทอดความรู้ การเขียนแผนธุรกิจ เวิร์กชอป การบ่มเพาะเชิงลึก และศึกษาดูงานต้นแบบ ทำให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้สามารถจัดทำแผนโมเดลธุรกิจและนำไปต่อยอดได้จริง และคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิมไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 จากกิจกรรมในครั้งนี้

นายสุรพล กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังได้มีการจัดประกวดการเขียนแผนธุรกิจโดยผู้ชนะได้รับสิทธิ์
ในการออกบูธเพื่อทดสอบตลาดทั้งในและต่างประเทศ พร้อมเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 100,000 บาท ประกอบด้วย
5 ราย ดังนี้ รางวัลที่ 1 คุณธิดารัตน์ สินทอง แบรนด์ ลิเภาโพธิ์เสด็จ รับเงินรางวัล 30,000 บาท พร้อมโล่
และประกาศนียบัตร รางวัลที่ 2 คุณกุลริศา  คำวิสุทธิ์ แบรนด์ KRAJOODBANRAO ORIGINAL รับเงินรางวัล 20,000 บาท พร้อมโล่และประกาศนียบัตร รางวัลที่ 3 คุณพิรุณ ศรีเอี่ยมสะอาด แบรนด์ PIROON รับเงินรางวัล 10,000 บาท พร้อมโล่และประกาศนียบัตร รางวัลชมเชยคุณเพียงระตา พรมาลิน แบรนด์ ETHNICABACA รับเงินรางวัล 5,000 บาท พร้อมโล่และประกาศนียบัตร และรางวัลชมเชย คุณนันท์นภัส  ศรีวรรณ แบรนด์ HOM STUDIO รับเงินรางวัล 5,000 บาท พร้อมโล่และประกาศนียบัตร

โดยรางวัลอันดับที่ 1 อันดับที่ 2 และอันดับที่ 3 รวมถึงรางวัลชมเชย ได้รับสิทธิ์ทดสอบตลาดภายในประเทศ
ในงาน Mega Shows Bangkok 2025 ณ ศูนย์แสดงนิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนา เมื่อวันที่ 16 – 18 กรกฎาคม 2568 และได้รับสิทธิ์ทดสอบตลาดต่างประเทศในงาน “The 67th Osaka International Gift Show 2025” เมื่อวันที่ 18-19 กันยายน 2568 ณ เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น

ดีพร้อม มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาศักยภาพบุคลากรหัตถอุตสาหกรรมไทยให้ก้าวสู่เวทีโลกผ่านการ
ให้ทักษะใหม่ ที่จำเป็นสำหรับยุคดิจิทัล ให้โอกาสโตไกลสู่สากล ผ่านการทดสอบตลาดในต่างประเทศ พร้อมทั้งสร้างโอกาสในการแข่งขันทางด้านการตลาดและสร้างเครือข่ายธุรกิจที่แข็งแกร่งและ ให้ธุรกิจไทยที่ดีคู่ชุมชน และเพิ่มการกระจายรายได้สู่ชุมชน และเป็นการยกระดับหัตถอุตสาหกรรมไทย ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนหัตถอุตสาหกรรมไทยด้วยอุตสาหกรรมสร้างสรรคที่มีเอกลักษณ์และมูลค่าสูง ตลอดจนผลักดันไทยสู่การเป็นศูนย์กลางงานศิลปหัตถกรรม
ระดับโลก อันจะเป็นการสร้างความภาคภูมิใจให้กับหัตถอุตสาหกรรมไทยในเวทีระดับสากลอย่างยั่งยืน
นายสุรพล กล่าวทิ้งท้าย